“สนั่น” เผย “ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร 10 ฉบับในวันแรกของการทำงานสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก เตือนไทยระวังผลกระทบทางตรง-ทางอ้อม แนะรัฐจัดทีมเจรจากับสหรัฐอเมริกาอย่างเร่งด่วนที่สุด
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร 10 ฉบับในวันแรกของการทำงานนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก นโยบายเหล่านี้สะท้อนถึงแนวคิดที่เน้นการปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐ และการดำเนินนโยบายที่อาจเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจในเวทีโลก แม้ว่าคำสั่งหลายฉบับจะเน้นไปที่ผลประโยชน์ภายในประเทศสหรัฐ แต่ผลกระทบในทางตรงและทางอ้อมต่อประเทศไทยก็ไม่อาจมองข้ามได้
โดยคำสั่งบางฉบับ เช่น การถอนตัวจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และการพูดถึงการยึดคลองปานามา ส่วนนี้น่าจะเป็นท่าทีในการใช้เพื่อเจรจาต่อรองกับจีน และกรีนแลนด์ อาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในเชิงอ้อม การลดบทบาทของ WHO อาจทำให้ความสามารถในการจัดการโรคระบาดระดับโลกลดลง ซึ่งไทยในฐานะประเทศที่พึ่งพาความร่วมมือระหว่างประเทศ อาจต้องเพิ่มศักยภาพภายในเพื่อรับมือกับวิกฤตสุขภาพในอนาคต
นอกจากนี้ การควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของสหรัฐ เช่น คลองปานามา อาจส่งผลต่อเส้นทางการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งไทยอาจเผชิญต้นทุนการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้น ส่วนการถอนตัวจากข้อตกลงปารีส อาจทำให้ไทยต้องเผชิญแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในด้านสิ่งแวดล้อมและมาตรการลดคาร์บอน
ส่วนการขึ้นภาษีสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% อาจสร้างโอกาสให้สินค้าไทย เช่น อาหารและสินค้าเกษตร ขยายส่วนแบ่งในตลาดสหรัฐ แม้ว่าจะยังไม่ได้มีการลงนามในคำสั่งขึ้นภาษีสินค้าจากจีน แต่ประธานาธิบดีทรัมส์ แต่ให้สัมภาษณ์นักข่าวว่าเขายังมีแนวคิดในการขึ้นภาษีกับจีน ซึ่งส่วนนี้ต้องจับตามองเนื่องจาก ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ได้มีการพูดคุยกับประธานาธิบดีทรัมส์ และได้เชิญให้เดินทางเยือน จีนอย่างเป็นทางการ ซึ่งเชื่อว่าประเด็นต่างๆเหล่านี้รวมไปถึงการต่อรองที่เกี่ยวข้องกับการค้า น่าจะมีความชัดเจนหลังจากที่ได้มีการพบกัน
ขณะเดียวัน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามคำสั่งกว่า 200 ฉบับ ซึ่งหอการค้าเห็นว่ามีหนึ่งในคำสั่งที่ต้องจับตามองคือ America First Trade Policy โดยในรายละเอียดแบ่งเป็น 5 เรื่องสำคัญที่ประธานาธิบดีให้ความสำคัญและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการติดตาม ได้แก่
1.การลดการพึ่งพาประเทศอื่นๆ
2.การจัดการกับการค้าที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งส่วนนี้ได้มีการมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้แทนการค้า ตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้สหรัฐอเมริกาขาดดุลการค้ากับประเทศต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการตรวจสอบว่าประเทศใดมีการบิดเบือนค่าเงินเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความได้เปรียบกับสหรัฐ
3.การทบทวนมาตรการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับจีน ซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ทรัพย์สินทางปัญญา และภาษี
4.มาตรการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
5.ขอให้มีการดำเนินการในข้อต่างๆ ให้แล้วเสร็จ พร้อมรายงานและ ให้ข้อเสนอแนะว่าควรดำเนินการอย่างไร ภายในวันที่ 1 เมษายนนี้
หากพิจารณาจากคำสั่งดังกล่าว ประเด็นข้อที่ 2 คือการค้าไม่เป็นธรรมอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยต้องเตรียมรับมือ เนื่องจากที่ผ่านมาไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้ดุลการค้าจากสหรัฐอเมริกาค่อนข้างสูง และในภูมิภาคอาเซียน ไทยได้ดุลการค้ากับสหรัฐเป็นอันดับ 2 รองเพียงเวียดนาม ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นที่จะต้องเร่งจัดทีมเจรจากับสหรัฐอเมริกาอย่างเร่งด่วนที่สุด เนื่องจากหลายมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการค้าน่าจะมีความชัดเจนภายหลังวันที่ 1 เมษายนนี้