“เผ่าภูมิ” เผยแจกเงินเฟส 2 วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท ส่งผลเม็ดเงินเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนจีดีพีโต 0.1% ด้าน“จุลพันธ์” คาดเฟส 3 ชัดเจนในเรื่องของไทม์ไลน์ภายใน 2 สัปดาห์นี้
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการแจกเงินในระยะที่ 2 วงเงิน ประมาณ 3 หมื่นล้านบาทจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวได้ประมาณ 0.1% ซึ่งจากข้อมูลของการแจกเงินระยะที่ 1 ในปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นโครงการที่ช่วยให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจ ประชาชนนำไปใช้จ่าย และลงทุนต่อยอดซึ่งทำให้เศรษฐกิจไทยมีโมเมนตัมที่ดีเป็นการเตรียมความพร้อมของเศรษฐกิจในช่วงต่อไปทั้งในช่วงไฮซีซั่น และโลว์ซีซั่น
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า การโอนเงินวันนี้เป็นส่วนสำคัญของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลโดยกระทรวงการคลังก็ให้ความสำคัญกับการเตรียมเม็ดเงินลงไปช่วยเหลือประชาชน และช่วยให้มีสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ โดยการแจกเงินในวันนี้ซึ่งเป็นวันจ่ายในเทศกาลตรุษจีนให้กับกลุ่มผู้สูงอายุก็จะทำให้มีการใช้จ่ายเงินออกไป ถือว่าเป็นการใส่เงินในช่วงที่ถูกต้อง
ส่วนจะมีการโอนเงินไม่สำเร็จมากน้อยขนาดไหนนั้นจะมีการแจ้งให้กระทรวงการคลังทราบในช่วงเย็นของวันนี้ซึ่งหากโอนเงินไม่สำเร็จก็จะมีการโอนซ้ำให้กับผู้ที่ได้รับสิทธิ์อีก 2 ครั้งในวันที่ 28 ของแต่ละเดือนได้แก่เดือน 28 ก.พ. 28 มี.ค.และ 28 เม.ย. ส่วนคนที่มั่นใจว่ามีสิทธิ์จะได้เงินแต่ยังไม่
ทั้งนี้หากย้อนดูรัฐบาลก็มีโครงการในการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องทั้งในเรื่องของการเติมเงินในระยะที่ 1 วงเงิน 1.45 แสนล้านบาทในเดือน ก.ย.ปีก่อน ต่อมาในช่วงปลายปีก็มีเงินจากโครงการไร่ละ 1,000 บาทที่โอนให้กับชาวนา จากนั้นก็มีโครงการคุณสู้ เราช่วย ในการที่จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องลดหนี้ให้กับประชาชน และโครงการให้ใช้จ่ายเพื่อลดหย่อนภาษี (Easy E-Receipt )ที่มีเม็ดเงินกว่า 7 หมื่นล้านบาทจะลงสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วง ม.ค.-ก.พ. ก่อนจะมาเป็นโครงการแจกเงินเฟสที่ 2 ในวัน
ส่วนความคืบหน้าในการแจกเงินในระยะที่ 3 และการแจกเงินให้กับผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนนั้นจะได้ความชัดเจนในเรื่องของไทม์ไลน์และขั้นตอนภายใน 2 สัปดาห์นี้ โดยการแจกเงินในเฟสที่ 3 ได้เตรียมเม็ดเงินไว้กว่า 1.6 แสนล้านบาทซึ่งอยู่ในงบกลางฯเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2568 ส่วนจะต้องใช้งบฯปี 2569 หรือไม่นั้นต้องดูอีกที
โดยแนวทางการแจกเงินเฟสที่ 3 ยังยืนยันว่าจะแจกเงินให้ได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ผ่านระบบแอปพลิเคชันที่เป็นการแจกเงินดิจิทัลและสมาร์ทคอนแท็กซ์ที่เป็นระบบบล็อกเชนอยู่เป็นระบบเบื้องหลัง โดยก่อนหน้านี้ได้ทำความเข้าใจกับธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐแล้วในการใช้งานระบบที่เป็นระบบ Open Loop ร่วมกัน
ส่วนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนนายจุลพันธ์กล่าวว่ากลุ่มนี้รัฐบาลจะมีการกำหนดรายละเอียดขั้นตอนต่างๆและแถลงให้ทราบเร็วๆนี้โดยคาดว่าใช้เวลาไม่นานสามารถทำคู่ขนานไปกับระยะที่3 ได้ โดยกลุ่มนี้มีคนที่เข้าข่ายไม่มากนักคาดว่าประมาณไม่เกิน 1 ล้านคน