วันพฤหัสบดี, มกราคม 30, 2025
หน้าแรกNEWSครม.เห็นชอบหลักการ ‘ร่าง พรบ.อาชญากรรมไซเบอร์ฯ’ ‘ประเสริฐ’ คาดประกาศบังคับใช้ ก.พ.นี้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ครม.เห็นชอบหลักการ ‘ร่าง พรบ.อาชญากรรมไซเบอร์ฯ’ ‘ประเสริฐ’ คาดประกาศบังคับใช้ ก.พ.นี้

ครม.เห็นชอบหลักการ ‘ร่าง พรบ.อาชญากรรมไซเบอร์ฯ’ ‘ประเสริฐ’ คาดประกาศบังคับใช้ ก.พ.นี้ เพิ่มโทษเจ้าของแอปพลิเคชั่น – ธนาคาร-เครือข่ายมือถือ มีส่วนรับผิดชอบความเสียหาย ปรับแก้ไขให้คืนเงินผู้เสียหายเร็วขึ้น

วันที่ 28 ม.ค.68 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า เนื่องจากตอนนี้มีปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเยอะ ครม.จึงอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอในการออกพระราชกำหนดการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่เป็นการเพิ่มเติมมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และมิจฉาชีพ ประเสริฐ เผย พ.ร.ก.ไซเบอร์ฯ ผ่านเห็นชอบ ครม. คาดประกาศบังคับใช้กุมภาพันธ์นี้ เพิ่มโทษเจ้าของแอปพลิเคชั่น – ธนาคาร – เครือข่ายมือถือ มีส่วนรับผิดชอบความเสียหาย ปรับแก้ไขเร่งคืนเงินผู้เสียหายเร็วขึ้น และปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมไซเบอร์

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจงถึงรายละเอียดร่างพระราชกำหนดป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ พ.ร.ก. ว่ามีการแก้ไขเพิ่มเติมสาระสำคัญจากพระราชกำหนดฉบับเดิมใน 5 ประเด็น คือ 1.การกำหนดการรับผิดชอบ ของสถาบันการเงิน เครือข่ายมือถือ และสื่อสังคมออนไลน์ ที่ต้องมีส่วนในการรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น หากไม่ดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดไว้

2.กำหนดหน้าที่ของผู้ให้บริการระบบโทรคมนาคม ที่มีหน้าที่ระงับ การใช้งานซิมการ์ดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทันที

3.เร่งรัดกระบวนการคืนเงินให้กับผู้เสียหาย โดยเพิ่มหน้าที่ให้ธนาคาร ต้องส่งข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้า ที่มีความเชื่อมโยง กับการกระทำความผิด ไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. เพื่อให้สามารถตรวจสอบ และสามารถคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้เร็ว ซึ่งเดิมการคืนเงินให้กับผู้เสียหายจะต้องผ่านขั้นตอนของกระบวนการศาลซึ่งใช้เวลาประมาณหนึ่งถึงสองปี การแก้ไขพระราชกำหนดฉบับนี้จะทำให้สามารถคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้เร็วขึ้นอยู่ที่ระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี

4.เพิ่มอำนาจการดำเนินการเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ซึ่งแพลตฟอร์มไหนที่มีความเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจะต้องมีส่วนในการรับผิดชอบ

5.เพิ่มบทลงโทษการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยแบ่งออกเป็นสองลักษณะ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ได้รับการยินยอมจากเจ้าของข้อมูล คือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแบบส่ง และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแบบการซื้อ-ขาย โดยมีโทษปรับสูงสุดถึง 5 ล้านบาทและจำคุกสูงสุดไม่เกิน 5 ปี

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า กฎหมายฉบับนี้ถือเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและจะสามารถป้องกันและปราบปรามได้มากยิ่งขึ้นที่ประชุม ครม. จึงได้อนุมัติในหลักการและให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา จากนั้นให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับร่าง พ.ร.ก.ไปพิจารณาปรับรูปแบบ โดยให้รับความเห็นหน่วยงานไปประกอบการพิจารณาสำหรับร่าง พ.ร.ก.ฉบับนี้หลัง ครม.เห็นชอบ และจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา จะมีผลบังคับใช้ทันที ซึ่งเลขาธิการกฤษฎีกา ระบุว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน คาดว่าประกาศบังคับใช้ได้ในเดือน กุมภาพันธ์นี้

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img