‘นายกฯ แพทองธาร‘ เตรียมคุย ’สี จิ้นผิง‘ จับมือแก้ ’คอลเซ็นเตอร์-ฝุ่นควัน‘ เชื่อร่วมมือกันจะสำเร็จเร็วขึ้น ลั่น เป็นนโยบาย ’เพื่อไทย‘ ต้องทำอยู่แล้ว หลัง ’ทักษิณ‘ ประกาศปราบ ’ยาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์‘ ให้หมดในปีนี้
วันที่ 28 ม.ค.68 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 5 – 8 กุมภาพันธ์ 2568 ว่า จะถือโอกาสพูดคุยกับ ‘สี จิ้นผิง’ ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงกรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝุ่นควัน และเรื่องอื่นๆ หรือไม่ ว่า เป็นหนึ่งในประเด็นที่จะไปคุยกับจีน ซึ่งคิดว่าทางจีนก็อยากได้ความร่วมมือจากไทย เพราะเรามีความสัมพันธ์ระดับพี่น้องกันมาอยู่แล้ว รวมถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไป เพราะปีนี้เป็นปีที่ครบ 50 ปีไทย-จีน ถ้ามีโอกาสก็จะหารือการเปิดการค้าไทยกับจีน
เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐมนตรีความมั่นคงของจีนมาคุยกับไทย เรื่องแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ประกอบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศบนเวทีหาเสียงนายก อบจ. ว่า ภายในปีนี้เรื่องแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์จะหมดไป มีความเป็นไปได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่นายทักษิณกล่าวไป ก็เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ทั้ง การปราบยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝุ่นควัน ถือเป็นสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ ซึ่งการได้รับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน จะช่วยเร่งกระบวนการนี้ให้สำเร็จเร็วขึ้น อย่างเรื่องฝุ่นในประเทศไทย หากดูจากจุดความร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังต้องขอความร่วมมือกันต่อไป เพราะฝุ่นอยู่ในอากาศ ลมสามารถพัดจากเราไปหาเขา และจากเขามาหาเราได้ ซึ่งก็ทำให้ส่งผลกระทบทั้งหมด จึงต้องอาศัยความร่วมมือ และหากได้ความร่วมมือก็จะเกิดผลเร็วอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องขอความร่วมมือจากจีนให้ช่วยเรื่องโซเชียลปล่อยข่าวลือหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ได้หารือเรื่องนี้โดยตรงแล้ว และการที่ตนเองเดินทางไปจีน ก็จะหารือขอความร่วมมือในเรื่องนี้อยู่แล้ว และจากการที่ตนเองได้ใช้ AI เพื่อประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจเป็นภาษาจีนนั้น ทางการจีนบอกว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และชอบที่เราสื่อสารกับเขาเป็นภาษาจีน
เมื่อถามว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อยากให้นายกฯ ตั้งทีมเพื่อมาติดตามดูในโซเชียลว่ามีการตอบว่าประเทศไทยอย่างไรบ้าง เพื่อแก้ปัญหาทีละปม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ทำอยู่แล้ว ในการตั้งทีมมอนิเตอร์ ว่าข่าวเท็จที่เกี่ยวกับประเทศไทย เป็นกลไกของกระทรวงดีอีอยู่แล้ว ว่าจะต้องปกป้องประเทศเราอย่างไรไม่ให้ข่าวลือ ข่าวเท็จมีผลกระทบ
เมื่อถามย้ำว่า จะนำประเด็นนี้ไปพูดคุยกับทางการจีนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความจริงแล้วการพูดคุยกับนายสี จิ้นผิง จะเป็นการพูดคุยกันในภาพรวม ส่วนเนื้อหาและรายละเอียด ต้องให้กระทรวงดีอีเป็นคนไปพูดคุยต่อไป ซึ่งในส่วนของตนเองก็จะแสดงความห่วงใยในเรื่องคอลเซ็นเตอร์ และพูดคุยในหัวข้อหลัก