วันพฤหัสบดี, มกราคม 30, 2025
หน้าแรกNEWS‘กรมพัฒนาธุรกิจการค้า’ ออก 6 มาตรการ ป้องกัน ‘บริษัทผี’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘กรมพัฒนาธุรกิจการค้า’ ออก 6 มาตรการ ป้องกัน ‘บริษัทผี’

‘กรมพัฒนาธุรกิจการค้า’ ออก 6 มาตรการ ป้องกัน ‘บริษัทผี’ หลังพบ ประชาชนถูกนำบ้านไปสวมรอยจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ยกร่างคำสั่งนายทะเบียนกลางเพื่อเรียกเอกสารเพิ่มเติม จัดทำระบบตรวจเช็คสถานที่ตั้งให้ประชาชนเช็กได้ว่า บ้านถูกนำไปใช้เป็นที่ตั้งของนิติบุคคลหรือไม่ คาดเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ หรือเร็วกว่านั้น

วันที่ 30 ม.ค.68 นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือ DBD แถลงข่าวมาตรการป้องกันบริษัทผีหลอกลวงประชาชน ระบุว่า DBD ได้ตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น มอบหมายให้นายจิตรกร ว่างเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นหัวหน้าทีม นอกจากนี้ยังได้วาง 6 มาตรการ ป้องกัน ‘นิติบุคคลผี’ หรือ ’บริษัทม้า‘

1.ยกร่างคำสั่งนายทะเบียนกลาง เพื่อเรียกเอกสารเพิ่มเติม กรณีที่มาจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล หรือเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งสำนักงาน เช่น สัญญาเช่า หรือหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่เป็นที่ตั้งนิติบุคคลจากเจ้าบ้าน จะเร่งเปิดประชาพิจารณ์ คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 1 เดือน และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

2.จัดทำระบบการตรวจเช็กสถานที่ตั้งสำนักงานนิติบุคคล เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจเช็กได้ว่า บ้าน หรือที่อยู่ของตน มีการนำมาใช้เป็นที่ตั้งของนิติบุคคลหรือไม่ คาดว่าจะเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ หรือเร็วกว่านั้น

3.บูรณาการความร่วมมือกับบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อตรวจสอบสถานที่ตั้งนิติบุคคลตามที่ผู้ขอจดทะเบียนได้แจ้งไว้ และปักหมุดพร้อมแสดงภาพถ่ายแผนที่ Google Map เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาตรวจสอบข้อมูล สามารถเช็กและเห็นภาพสถานที่ตั้งนิติบุคคลที่แจ้งจดทะเบียน

4.หากพบว่านิติบุคคลมีที่ตั้งไม่ตรงกับที่แจ้งจดทะเบียน จะดำเนินการป้องปรามภายใต้อำนาจหน้าที่ที่กรมฯ สามารถทำได้ ทั้งในส่วนการระบุหมายเหตุในหน้าหนังสือรับรองนิติบุคคลว่า “ไม่มีสถานที่ตั้งจริง” เพื่อเตือนผู้ที่จะทำธุรกิจด้วย และส่งเรื่องดำเนินคดีตามกฎหมาย

5.หากมีบุคคลที่อยู่ในรายชื่อบัญชี HR-03 มาขอจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล หรือแจ้งชื่อเป็นผู้จัดการห้างหุ้นส่วน หรือกรรมการบริษัทจำกัด จะเรียกให้บุคคลดังกล่าวมาแสดงตนต่อหน้านายทะเบียน และส่งข้อมูลให้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) เพื่อติดตามขยายผล หากไม่มาแสดงตน จะไม่รับจดทะเบียน

6.ร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งโทษการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ ยังชี้แจงถึงขั้นตอนการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล คือ จัดทำคำขอพร้อมเอกสารประกอบมายื่นต่อนายทะเบียน จากนั้นนายทะเบียนตรวจสอบความถูกต้อง หากถูกต้องครบถ้วนก็รับจดทะเบียนฯ แต่หลักเกณฑ์การจดทะเบียนในปัจจุบัน ยอมรับว่า “ไม่มีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบสถานที่ตั้งก่อนการรับจดทะเบียน”

นอกจากนี้ กฎหมายไม่ได้ห้ามกรณีที่หลายนิติบุคคล จะมีสถานที่ตั้งเดียวกัน

สำหรับการยื่นจดทะเบียนออนไลน์ ต้องมีการยืนยันตัวตนของกรรมการ และผู้ที่ยื่นขอจดทะเบียนนิติบุคคล ผ่านระบบ e-KYC หรือ Thai ID

ส่วนของตรวจสอบสถานที่ตั้ง ทางกรมฯ อยู่ระหว่างพัฒนาระบบวิเคราะห์พฤติกรรมนิติบุคคล หรือ Intelligence Business Analytic System (IBAS) ซึ่งจะใช้ดูว่ามีพฤติกรรมต้องสงสัยหรือไม่

กรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า เพียงแค่กรอกเลขที่บ้าน และรหัสประจำบ้าน ก็สามารถระบุที่ตั้งบริษัทได้เลยนั้น ต่อไปนี้อาจจะไม่เพียงพอ อาจจะจำเป็นต้องใช้เอกสารอื่นเพิ่มเติม นี่จึงเป็นที่มาที่จะต้องมีการยกร่างคำสั่งนายทะเบียนกลาง เพื่อเรียกเอกสารเพิ่มเติม

สำหรับการกำหนดลิมิตการจดทะเบียนบริษัท โดยใช้ที่อยู่เดียวกันเป็นจำนวนมากๆ นั้น ขณะนี้ทางกรมรับทราบแล้ว ว่ามิจฉาชีพใช้รูปแบบนี้จัดตั้งบริษัท ซึ่งมองว่ามาตรการที่ได้แถลงไปจะช่วยป้องปรามได้ ทั้ง การประสานกับไปรษณีย์ไทย ในการนำเอาไปรษณีย์ไทยมาปักหมุด ทำ Google Maps เพื่อให้เห็นภาพที่ตั้ง และการพัฒนาระบบ IBas เป็นต้น

ส่วนบริษัทที่มีการจดทะเบียนไปแล้วนั้น ขณะนี้ได้มอบให้ทีมเฉพาะกิจไปดำเนินการเข้าไปตรวจสอบดูข้อมูล ว่าปัจจุบันมีบริษัทที่ใช้ที่อยู่หลายบริษัท และมาไล่ดู และอาจจะมีการประสานกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

-ทั้งนี้ นางอรมน ระบุถึงกรณีที่เพจ drama addicted ระบุว่า มีบริษัทผีหลายแห่งใช้ที่อยู่เดียวกันนั้น ต้องขอเข้าไปตรวจสอบก่อน พร้อมอธิบายว่า มีบางกรณีที่มีสำนักงานบัญชี หรือสำนักงานกฎหมาย ให้คำปรึกษาแก่ประชาชน ที่ต้องการจัดตั้งบริษัท แล้วใช้ที่อยู่ของเขา เป็นที่อยู่ของบริษัทเพื่อความสะดวกในการส่งเอกสาร ในการติดต่อบริษัท แต่หากพบว่าเป็นที่ตั้งที่น่าสงสัย ก็จะมีการประสานร่วมกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการส่งต่อข้อมูล

ส่วนกรณีที่เปิดบริษัทโดยมีชื่อต่างด้าวมาเป็นกรรมการ ถ้ามาตามขั้นตอนที่ถูกต้องก็สามารถดำเนินการได้ เพราะก็ไม่ได้กีดกันการลงทุนจากต่างชาติ แต่หากมาแบบผิดกฎหมายหรือใช้ชื่อคนไทยแฝงอำพรางหรือนอมินี ก็จะมีการตรวจสอบ และมีการติดตามผลของการดำเนินคดีหรือเอาผิดกับนิติกรรมอำพราง หรือนอมินี ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแทบจะทุกเดือน

เมื่อถามว่า แต่ละเดือนมีนิติบุคคลม้า หรือนอมินีมากน้อยแค่ไหนนั้น ทางอธิบดีระบุว่า เรามีตัวเลขเรื่องของนอมินี ตัวเลขตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 2567 ถึง 4 ธันวาคม 2567 ที่ได้จากการรวบรวมจากตำรวจ ,ปปง. ,กรมที่ดิน ,กระทรวงท่องเที่ยว และกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเอง มีอยู่ 747 ราย ที่เข้าข่ายเป็นนอมินี และได้ถูกดำเนินการตามกฏหมาย มูลค่าความเสียหายประมาณ 11,000 ล้านบาท

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img