ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 11.60 จุด หลัง “ทรัมป์” ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม และอาจเรียกเก็บสินค้าอื่น ๆ เพิ่มเติม ในประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐ มองแนวโน้มพรุ่งนี้ปรับตัวลงต่อ โดยให้กรอบแนวรับ 1,230 – 1,250 จุด และแนวต้าน 1,275 – 1,290 จุด
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน บล.กสิกรไทย เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,270.49 จุด ลดลง 11.60 จุด (-0.90%) มูลค่าการซื้อขาย 43,230.57 ล้านบาทว่า หุ้นไทยอยู่ในภาวะเปราะบาง ปริมาณการซื้อขายเบาบาง ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทย Underperform ตลาดภูมิภาค โดย SET Index ปรับตัวลงแล้วราว 8-9% YTD ซึ่งถูกกดดันจากความกังวลสงครามการค้า
โดยล่าสุดนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เปิดเผยว่าจะประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม และอาจเรียกเก็บสินค้าอื่น ๆ เพิ่มเติม ในประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐ แม้ไทยอาจไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ประเทศในเอเชียเหนือที่ได้รับผลกระทบโดยตรง อาทิ ญี่ปุ่น เวียดนาม เกาหลีใต้ และไต้หวัน ซึ่งมีการส่งออกสินค้าเหล็กไปยังสหรัฐ และอุตสาหกรรมไทยอาจได้รับผลกระทบทางอ้อม หากประเทศดังกล่าวไม่สามารถส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐได้ สินค้าจะไหลเข้าสู่ภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันอุตสาหกรรมเหล็กในไทยยังไม่ดี
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ปรับตัวลงต่อ โดยสัปดาห์นี้ติดตามการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี โดยให้กรอบแนวรับ 1,230 – 1,250 จุด และแนวต้าน 1,275 – 1,290 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,759.75 ล้านบาท ปิดที่ 283.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,518.94 ล้านบาท ปิดที่ 112.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,329.93 ล้านบาท ปิดที่ 12.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,277.62 ล้านบาท ปิดที่ 54.25 บาท ลดลง 1.75 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,974.74 ล้านบาท ปิดที่ 50.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
