“บิ๊กเต่า”คาด1เดือนรู้ผลสอบ “ผู้การต๊ะ”เอี่ยวเมียวดีคอมเพล็กซ์หรือไม่ ยืนยันหากมีข้อมูลเชื่อมโยงไปถึงใครก็จะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น รวมถึงนายตำรวจอีก 5 นาย ในพื้นที่จังหวัดตากซึ่งปรากฏคำสั่งโยกย้ายเช่นกัน.
เมื่อวันที่ 13 ก.พ.68 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยกรณี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 63/2568 ให้ พล.ต.ต.เอกราษฎร์ หรือ ผู้การต๊ะ ผู้บังคับการกองตรวจราชการ 5 รักษาราชการแทน ผู้บังคับการกองตรวจราชการ 6 มาช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมายเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย ภายหลังตกเป็นประเด็นเกี่ยวข้องกรณีข้าราชการตำรวจยศ “พล.ต.ต.” มีความเชื่อมโยงกับธุรกิจ “เมียวดีคอมเพล็กซ์” สถานบันเทิงและบ่อนกาสิโน ฝั่งเมียนมา ว่า ตนได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้สอบสวนกรณีดังกล่าว โดยได้มีการตั้งชุดคณะทำงาน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและมีความชัดเจนภายใน 1 เดือน ซึ่งคณะทำงานนี้จะเน้นด้านการสอบสวนพฤติกรรมของ พล.ต.ต.เอกราษฎร์ เพียง 1 รายก่อน ว่าเกี่ยวข้องกับเมียวดีคอมเพล็กซ์จริงหรือไม่ และเกี่ยวข้องในด้านใด รวมถึงมีบุคคลใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวด้วย ซึ่งยืนยันจะสอบสวนในทุกมิติ โดยในชุดทำงานจะประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ป.ป.ป.,บก.ปอท.,บก.ปอศ.
ส่วนการที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ จะสั่งให้สอบสวนกรณีดังกล่าวมีมูลเหตุมาจากประเด็นใดนั้นส่วนตัวไม่สามารถตอบได้ และ อยากขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน เบื้องต้น ยังไม่ได้มีการวางประเด็นว่าจะเอาผิดทางวินัยหรืออาญา หรือ จริยธรรมเพียงแต่ต้องการความชัดเจนว่า พล.ต.ต.เอกราษฎร์ มีความเกี่ยวข้องจริงหรือไม่และเกี่ยวข้องอย่างไร เพื่อแก้ไขปัญหาภาพลักษณ์ของตำรวจ
ทั้งนี้ได้มีการตั้งโครงสร้างตัวละครที่อาจจะเกี่ยวข้องทั้งผู้มีอิทธิพล และ ผู้มีอำนาจในพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันเพื่อวางแนวทางสืบสวนหารายละเอียด และแม้ว่าก่อนหน้านี้ สำนักงานจเรตำรวจจะได้มีการสอบสวนประเด็นดังกล่าวไปแล้ว แต่ก็เป็นคนละส่วนกัน และจากกรณีที่มีข้อมูลว่ามีบุคคลใกล้ชิดของพล.ต.ต.เอกราษฎร์ รับช่วงต่อดูแลกิจการดังกล่าวนั้น ทางตำรวจมีข้อมูลชุดนี้อยู่แล้ว ยืนยันหากมีข้อมูลเชื่อมโยงไปถึงใครก็จะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น รวมถึงนายตำรวจอีก 5 นาย ในพื้นที่จังหวัดตากซึ่งปรากฏคำสั่งโยกย้ายเช่นกัน.