‘ทักษิณ’ ขออภัย กรณี ‘ตากใบ’ หากในอดีตมีอะไรผิดพลาด ทำให้ไม่พอใจ ยันมีความห่วงใย ปชช.100% เผย มองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์สันติภาพชายแดนใต้ เชื่อ ภายในปีนี้สัญญานจะดีขึ้น ปีหน้าจบ ลั่น ระเบิดก่อนลงพื้นที่ มีคนทำให้ตกใจ แต่ตนใจแข็ง บอก ต้อนรับวิธีไหน รับได้หมด เหตุเคยถูกลอบสังหารมา 4 ครั้งแล้ว
วันที่ 23 ก.พ.68 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาประธานอาเซียน ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่โรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ถึงการใช้บทบาทที่ปรึกษาประธานอาเซียน นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดความสงบสุข ว่า ความร่วมมือในพื้นที่และความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน เป็นหัวใจสำคัญในการคืนสันติสุขให้กับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ ซึ่งในพื้นที่เราต้องมีการพูดคุยกันให้เข้าใจ ตนเองได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้นำประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลาย ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง ทุกคนอยากเห็นประเทศไทยและอยากเห็นอาเซียนเป็นที่ๆมีความสงบสุข และได้มีการลงทุน การท่องเที่ยวกันมากขึ้น ฉะนั้นทุกคนร่วมมือกันหมด ซึ่งการร่วมมือ ตนเองมีความรู้สึกว่าเป็นการร่วมมือที่ไม่เคยได้รับมาก่อนเหมือนครั้งนี้ เชื่อมั่นว่า เราน่าจะแก้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ดีกว่า จากความร่วมมือทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เมื่อถามว่า เรื่องที่จะนำไปหารือกับในประเทศอาเซียนนั้นมีเรื่องใดบ้าง นายทักษิณ กล่าวว่า ส่วนใหญ่คือเรื่องของการที่บุคคล 2 สัญชาติ ซึ่งไม่ผิดอะไร เป็นการข้ามไป-ข้ามมา เพื่อทำมาหากิน และไปเยี่ยมเยียนกันไม่เป็นไร แต่การข้ามไป-ข้ามมาในเชิงของเพื่อก่อการร้ายในประเทศได้แล้วไปหลบซ่อนนั้น เราได้รับการร่วมมือเป็นอย่างดี
เมื่อถามถึงเรื่องของการนิรโทษกรรม นายทักษิณ กล่าวว่า เราต้องคุยกันก่อน หากเราคุยกันจบแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถปรับได้หมดว่า เราจะทำอย่างไรถึงจะให้คนที่มีความผิดไปแล้วและสำนึกผิด ได้กลับมาประเทศไทยอย่างเดิม แต่ก็ต้องมีการพูดคุยกันอยู่อีกหลายขั้นตอน
ส่วนมองอย่างไรกับการที่รัฐบาลมีการทบทวนที่จะใช้นโยบาย 66/2523 นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นแนวที่เคยใช้สมัยก่อนก็ได้ผลดี แต่วันนี้อาจจะมีการพูดคุยกันในหลายๆ ฝ่าย แล้วก็ปรับให้เป็นไปได้ ทุกอย่างเป็นไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากไม่ได้ลงพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มานาน มีเป้าหมายอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า 20 กว่าปี ก็อยากจะกลับมาเห็นว่าความรู้สึกของคนที่นี่เป็นอย่างไร ทัศนคติที่จะเห็นความปรองดองสันติสุขเกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร วันนี้เท่าที่ดูแล้วมันฟูขึ้นเยอะ ยิ่งตนเองไปประสานงานกับต่างประเทศด้วย มั่นใจว่ามันเป็นสิ่งที่หาข้อยุติได้ และรู้สึกดีใจ เหมือนเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
เมื่อถามว่า พี่น้องจังหวัด 3 ชายแดนภาคใต้มองว่านายทักษิณเป็นแสงสว่างสุดท้าย และต้องรออีกนานแค่ไหน นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่ต้องรอ ภายในปีนี้จะเห็นสัญลักษณ์ที่ดีขึ้นเยอะ และปีหน้าน่าจะจบ
นายทักษิณ กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้ตนเองมาใน 3 บทบาท ทั้งเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน , อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้สนับสนุนรัฐบาลเพื่อไทยที่มีลูกสาวเป็นนายกรัฐมนตรี ตนเองมีความรู้สึกว่ายังทำงานไม่จบ ก็อยากจะเห็นสันติสุขใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยากจะเห็นตรงนี้ให้จบ ซึ่งก็เอาประสบการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสมัยก่อนที่เคยทำไป มาแชร์กันว่าเราควรปรับอย่างไร เพราะวันนี้ทัศนคติของคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เบาลงขึ้นเยอะ เข้าใจขึ้นเยอะ เมื่อก่อนลงพื้นที่สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี เด็กยังมองหน้าเข้มใส่ แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปเยอะ น่าจะเป็นสัญญาณที่ดี
ส่วนจะมีการถอนกำลังทหารลงหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เราอย่าเพิ่งพูดไปไกล หลังจากวันนี้ที่มีการพูดคุยกัน อะไรที่จำเป็นก็อยู่ต่อไป อะไรไม่จำเป็นก็ไม่ควรอยู่
นายทักษิณ กล่าวย้ำว่า หลังจากนี้จะเห็นความชัดเจนในการตั้งคณะพูดคุย หรือการเดินหน้าต่อ ในการดำเนินการคืนสันติสุขให้กับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายในปีนี้ ทุกอย่างคงเห็นได้ชัดขึ้น เพราะอดีตรองประธานาธิบดีของประเทศอินโดนีเซีย นายยูซู ฟลัลลา ก็อาสามาช่วย และมีคนอาสาเข้ามาช่วยจากหลายๆ ที่
เมื่อถามว่า จะอาสาเข้ามาพูดคุยด้วยตนเองหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า แน่นอน ตนเองจะพยายามอยู่ห่างๆ และให้คำแนะนำ แต่แน่นอนว่า เจ้าหน้าที่ต้องทำงานของเขาโดยตรง
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ว่าจะเข้าไปอยู่ในคณะการพูดคุย นายทักษิณ กล่าวว่า “ไม่ครับ ผมแก่แล้ว”
เมื่อถามถึงกรณีเกิดเหตุระเบิด 2 จุดก่อนที่จะลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งเหตุระเบิดที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา และที่ ท่าอากาศยานจ.นราธิวาส เมื่อเช้านี้ เป็นการต้อนรับการมาครั้งนี้หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “เป็นเรื่องของสัญลักษณ์ บางคนอยากทำให้ผมตกใจ แต่บังเอิญผมเป็นคนตกใจยาก ผมใจแข็ง ถูกลอบฆ่ามา 4 ครั้งแล้ว ยังเฉยๆ ไม่เป็นไร ใครจะต้อนรับวิธีไหน ผมรับได้หมด”
เมื่อถามถึงกรณีตากใบ คนในพื้นที่อาจจะยังคาใจ นายทักษิณกล่าวว่า “วันนี้ได้คุยกับผู้นำทางศาสนา ตอนที่ผมเป็นนายกฯ ผมมีความตั้งใจและห่วงใยพี่น้อง 100% แต่การทำงานมีความผิดพลาดได้บ้าง ถ้าผมมีอะไรผิดพลาด ที่ไม่เป็นที่พอใจ ก็ขออภัยด้วยครับ เพื่อเราจะได้หันกลับมาช่วยกันแก้ปัญหาด้วยกัน ไม่อยากให้มีความเกรงใจเล็กๆ น้อยๆ แต่พี่น้องมุสลิมถูกสอนมาว่า รักสันติสุข รู้จักให้อภัย เพราะฉะนั้นเมื่อเราขออภัยในสิ่งที่ผมอาจจะทำเป็นที่ไม่ถูกใจหรือผิดพลาดบ้าง ต้องขออภัยด้วยครับ”