วันจันทร์, มีนาคม 31, 2025
หน้าแรกNEWS“ขุนคลัง” มั่นใจเบิกจ่ายงบลงทุนเกินเป้าหมาย 80%
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ขุนคลัง” มั่นใจเบิกจ่ายงบลงทุนเกินเป้าหมาย 80%

“พิชัย” คาดเบิกจ่ายงบลงทุนเกินเป้าหมาย 80% ของงบประมาณ ระบุปีก่อนที่ทำได้ต่ำกว่าเป้าหมายเพราะการจัดทำงบประมาณล่าช้า ขณะที่นายกฯ เรียกหารือรายกระทรวงฯ ชี้มีเงินรอเบิกจ่ายงบประมาณเหลื่อมปี 1.2 แสนล้านบาท

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง  เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลได้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ  เพื่อให้เม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยงบลงทุนที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ที่ 80% ของวงเงินงบประมาณทั้งหมดขึ้น ซึ่งคาดหวังว่าจะมีการเบิกจ่ายได้ดีกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้  แต่ในปีงบประมาณ 67 ล่าช้าเกิดจากการประกาศใช้ล่าช้าทำให้การเบิกจ่ายทำให้ต่ำกว่าเป้าหมาย เพราะการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนนั้นกว่าจะทำได้ก็คือช่วงเดือน พ.ค. – มิ.ย.แล้ว โดยจะเร่งในส่วนที่เป็นรายจ่ายทุน ที่เป็นงบประมาณในการก่อสร้าง ซึ่งในส่วนนี้ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่กระจายอยู่ในต่างจังหวัด ซึ่งเป็นนอกจากมีโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐก็ยังโครงการย่อยๆ ที่มีการเบิกจ่ายลงไปในแต่ละพื้นที่ด้วย

นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวถึงการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในส่วนของรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลว่า ในปีนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก โดยมีการตั้งเป้าหมายในการเบิกจ่ายไว้ 80% ของงบประมาณทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีการตั้งเป้าไว้ที่ 75% ขณะที่ตัวเลขการเบิกจ่ายจริงทำได้ 65% ของงบประมาณ ซึ่งมีปัจจัยในเรื่อง พ.ร.บ.งบประมาณที่ออกมาล่าช้า ซึ่งได้มีการเร่งรัดเต็มที่ทำให้การเบิกจ่ายออกมาได้ถึง 65% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ

สำหรับในปีนี้เมื่อมีการตั้งเป้าหมายการเบิกจ่ายเพิ่มขึ้นในระดับนโยบายคือนายกรัฐมนตรีก็มีการเรียกหน่วยงานที่มีวงเงินงบประมาณลงทุนจำนวนมากมาสอบถามความคืบหน้าของการเบิกจ่ายโครงการ ซึ่งมีการติดตามร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง ในกระทรวงหลักที่มีงบประมาณมาก เช่น กระทรวงคมนาคม เกษตร และ มหาดไทย เป็นต้น

โดยการติดตามเรื่องนี้รัฐบาลมีการติดตามเป็นรายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งภายในวันที่ 28 ก.พ.นี้การเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนต้องได้ไม่ต่ำกว่า 29% และจะมีการเร่งรัดมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อผ่านขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการต่างๆแล้ว ส่วนเงินที่กันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีตั้งแต่ปีงบประมาณที่แล้วที่จะมาเบิกจ่ายในปีนี้มีวงเงินประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งทยอยเบิกจ่ายมาเรื่อยๆ โดยหน่วยงานราชการต้องมีการเบิกจ่ายภายในปีนี้

อย่างไรก็ตามในบางหน่วยงานที่ยังไม่ได้เริ่มขั้นตอนใดเลย เช่น ยังไม่ก่อหนี้ โดยเฉพาะหน่วยงานเล็กๆซึ่งมีหลายโครงการที่มีลักษณะนี้ก็ได้เร่งรัดให้เริ่มต้นขั้นตอน นอกจากนั้นในส่วนที่กรมบัญชีกลางต้องไปช่วยเร่งรัดมากก็คือโครงการของจังหวัด กลุ่มจังหวัดในภูมิภาค ซึ่งได้ขอความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทยแล้วในมีการเร่งรัดในส่วนนี้ เพื่อให้มีเม็ดเงินที่ลงไปในระบบเศรษฐกิจกระจายไปทั่วประเทศ

ส่วนใหญ่หน่วยงานจะมีความเข้าใจที่จะต้องเร่งรัดการจัดซื้อจัดจ้าง ส่วนใหญ่ก็จะทำทัน และเมื่อทำกระบวนการให้ทัน เพราะหลังจากก่อหนี้แล้วต้องเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งการทำกระบวนการให้ทันเพื่อให้กันเงินได้ หากทำกระบวนการนี้ไม่ทันจะส่งผลต่อโครงการเนื่องจากจะไม่มีเม็ดเงินงบประมาณมาดำเนินโครงการได้”

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img