บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจไฟเขียวแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท กลุ่มคนอายุ 16 – 20 ปี ที่มีการลงทะเบียนกับภาครัฐไว้จำนวน 2.7 ล้านคน วงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท คาดโอนเงินอย่างช้าต้นไตรมาส 3/68
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท สำหรับกลุ่มคนอายุ 16 – 20 ปี ที่มีการลงทะเบียนกับภาครัฐไว้จำนวน 2.7 ล้านคน วงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท
โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มโอนเงินให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 2 หรือต้นไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นโครงการในระยะที่ 3 หรือเป็นโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจริงๆ โครงการแรกที่จะปูพื้นฐานในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านระบบดิจิทัลในช่วงต่อไป ส่วนกลุ่มที่เหลือจะมีการจ่ายเงินในโครงการในระยะต่อไปตามความเหมาะสม
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการแจกเงินรัฐบาลดูช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยมองว่า ตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 1 น่าจะออกมาดี และไตรมาสที่ 2 ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่ในช่วงปลายๆ ไตรมาสที่ 2 ถึงต้นไตรมาสที่ 3 เศรษฐกิจไทยจะมีความอ่อนแรงดังนั้นรัฐบาลก็พิจารณาว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีความเหมาะสม โดยการพิจารณาว่าการแจกเงินให้กับกลุ่มอายุ 16-20 ปีที่มีประมาณ 2.7 ล้านคน ถือว่าเป็นโครงการใหม่ที่จะต้องเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม.
ซึ่งมีการปรับเงื่อนไขในโครงการบางส่วน เช่น ให้ร้านค้าเบิกเงินสดได้โดยกำหนด Nagative List ของร้านค้าไว้ จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเทอมได้ ซึ่งในกลุ่มนี้ก็ถือว่าเป็นกลุ่มที่อยู่ในวัยเรียนเงินจำนวนนี้สามารถแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองได้บางส่วน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่ าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตรัฐบาลที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจได้เตรียมวงเงินงบประมาณไว้ 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งตามระเบียบของการเบิกจ่ายงบประมาณต้องมีการเบิกจ่ายงบประมาณให้แล้วเสร็จภายในเดือนต.ค.หรือไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ซึ่งในกรณีที่ยังไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ก็ต้องมีการทำโครงการไว้ก่อนเพื่อข้อผูกพันงบประมาณ
โดยในส่วนนี้ถือเป็นงบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาลที่จะต้องมีการจ่ายให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีการลงทะเบียนไว้ ซึ่งพยายามที่จะทำให้ทันตามเงื่อนไข แต่ต้องดูเงื่อนไขต่างๆ และสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงด้วย ซึ่งการที่รัฐบาลยังไม่จ่ายให้กับทั้งหมดไม่ใช่ว่างบประมาณไม่เพียงพอเพราะได้เตรียมงบประมาณในส่วนนี้ไว้แล้ว