การบินไทยประกาศใหม่แจ้งปรับเปลี่ยนน้ำหนักสัมภาระเส้นทางภายในประเทศและระหว่างประเทศชั้นประหยัด โดยลดน้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องบินลง จาก 25 กิโลกรัม เหลือ 23 กิโลกรัมมีผล 1 เม.ย. เป็นต้นไป
รายงานข่าวจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ได้ออกประกาศใหม่แจ้งปรับเปลี่ยนน้ำหนักสัมภาระเส้นทางภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยประกาศปรับลดน้ำหนักกระเป๋าที่จะโหลดใต้ท้องเครื่องบินลง จาก 25 กิโลกรัม เหลือ 23 กิโลกรัมมีผล 1 เมษายน เป็นต้นไป
โดยระบุว่าปรับเปลี่ยนน้ำหนักสัมภาระที่ระบุบนบัตรโดยสาร ทั้งเส้นทางบินภายในประเทศและเส้นทางบินระหว่างประเทศ ที่เดินทางด้วยเที่ยวบินของการบินไทย ทั้งผู้โดยสารที่เดินทางเอง (FIT)และผู้โดยสารที่เดินทางเป็นกลุ่ม (GIT)
โดยมีการปรับเปลี่ยนเฉพาะ ชั้นประหยัด(Economy Class) เฉพาะชั้นบัตรโดยสาร(Booking Class) ต่อไปนี้ L W (Saver fare family) และ V S K (Standard Fare Family) จะมีการปรับเปลี่ยนจาก เดิมมีน้ำหนักสัมภาระ 25 กิโลกรัม เป็นน้ำหนักสัมภาระ 23 กิโลกรัม
อย่างไรก็ตาม ไม่มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงเรื่องจำนวนชิ้นสัมภาระ และการบินไทยยังคงยึดถือตามน้ำหนัก(Weight Concept) ไม่ใช่ตามจำนวนชิ้น(Piece Concept) การปรับลดน้ำหนักกระเป๋า จะมีผลกับบัตรโดยสารที่ออกใหม่ตั้งแต่ 1 เมษายน 2568 และเดินทางตั้งแต่ 1 เมษายน 2568 เป็นต้นไป หรือบัตรโดยสารที่ยังไม่ได้เดินทางทั้งฉบับและมีการเปลี่ยนแปลง ออกบัตรโดยสารอีกครั้ง(Reissued) ตั้งแต่ 1 เมษายน 2568 เพื่อเดินทางตั้งแต่ 1 เมษายน 2568 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ในชั้นบัตรโดยสาร (Booking Class) อื่นๆ ของชั้นประหยัด ได้แก่ T Q H M B Y และ N X ยังคงได้น้ำหนักสัมภาระตามเดิมคือ 30 กิโลกรัม ส่วนชั้นบัตรโดยสาร G ได้ 25 หรือ 30 กิโลกรัมแล้วแต่กรณี
ส่วนชั้นบัตรโดยสารในชั้นโดยสารอื่น ๆ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง คือ พรีเมียมอีโคโนมี น้ำหนักสัมภาระ 35 กิโลกรัมทุกชั้นบัตรโดยสาร รอยัลซิลค์คลาส น้ำหนักสัมภาระ 40 กิโลกรัมทุกชั้นบัตรโดยสาร และรอยัลเฟิร์สท์คลาส น้ำหนักสัมภาระ 50 กิโลกรัมทุกชั้นบัตรโดยสารสำหรับบัตรโด ยสารชั้นประหยัด ชั้นบัตรโดยสาร W ในเส้นทางเมียนมาร์ ลาว กัมพูชาและเวียดนาม ไม่มีน้ำหนักสัมภาระ
