วันเสาร์, มีนาคม 15, 2025
หน้าแรกHighlightปภ.เตือน68จังหวัดระวังพายุฤดูร้อนถล่ม ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยคลื่นลมแรง16-20มี.ค.
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ปภ.เตือน68จังหวัดระวังพายุฤดูร้อนถล่ม ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยคลื่นลมแรง16-20มี.ค.

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือนประชาชนระวัง พายุฤดูร้อน 68 จังหวัด รวมถึงกรุงเทพมหานคร ส่วน 5 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย สถานการณ์คลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 16-20 มี.ค.นี้

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีประกาศฉบับที่ 1 (54/2568) ลงวันที่ 14 มี.ค. แจ้งว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมี อากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบางพื้นที่

โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าบางพื้นที่ จากนั้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 5 – 8 องศาเซลเซียส ภาคเหนือและภาคกลาง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 17-20 มีนาคม 2568 ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร โดยพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 16-20 มี.ค.มีรายละเอียดดังนี้

  • พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ระหว่างวันที่ 16-17 มีนาคม 2568 ได้แก่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง
  • พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์อุณหภูมิลดลง ระหว่างวันที่ 18-20 มีนาคม 2568 ได้แก่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง
  • พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง ระหว่างวันที่ 17-20 มีนาคม 2568 ได้แก่ ภาคใต้ 5 จังหวัด ประกอบด้วย

1. จังหวัดสุราษฎร์ธานี 9 อำเภอ (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี อำเภอไชยา อำเภอท่าชนะ อำเภอท่าฉาง อำเภอพุนพิน อำเภอดอนสัก อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงัน)

2. จังหวัดนครศรีธรรมราช 6 อำเภอ (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอขนอม อำเภอสิชล อำเภอท่าศาลา อำเภอปากพนัง และอำเภอหัวไทร)

3. จังหวัดสงขลา 7 อำเภอ (อำเภอเมืองสงขลา อำเภอระโนด อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสทิงพระ อำเภอสิงหนคร อำเภอจะนะ และอำเภอเทพา)

4. จังหวัดปัตตานี 6 อำเภอ (อำเภอเมืองปัตตานี อำเภอหนองจิก อำเภอยะหริ่ง อำเภอปะนาเระ อำเภอสายบุรี และอำเภอไม้แก่น)

5. จังหวัดนราธิวาส 2 อำเภอ (อำเภอเมืองนราธิวาส และอำเภอตากใบ)

ทั้งนี้ปภ.ได้ประสานแจ้ง 68 จังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร และภาคใต้ 5 จังหวัดฝั่งอ่าวไทย ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าว โดยติดตามสถานการณ์ สภาพอากาศ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด และประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า รวมถึงจัดเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรกลสาธารณภัยและทีมปฏิบัติการเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ตลอดจนตรวจสอบบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกล้มทับ รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า ส่วนเกษตรกรให้จัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย สำหรับพื้นที่ที่เฝ้าระวังสถานการณ์อุณหภูมิลดลง ให้ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และให้คำแนะนำประชาชนในการดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่อุณหภูมิลดลง เพื่อป้องกันการเกิดอาการเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้น

ส่วน พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ได้กำชับให้ 5 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ได้แก่ จังหวัดราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 12 สงขลา ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด

ประชาชนสามารถติดตามสภาพอากาศ ประกาศการแจ้งเตือนภัย และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ ได้ทางแอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และหากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 (ตลอด 24 ชั่วโมง) เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img