วันเสาร์, มีนาคม 22, 2025
หน้าแรกHighlight‘ปธ.กกต.’เผย‘นายกอบจ.ลำพูน’พรรคส้ม ถูกร้องมีพฤติการณ์‘หาเสียงใส่ร้ายคู่แข่ง’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘ปธ.กกต.’เผย‘นายกอบจ.ลำพูน’พรรคส้ม ถูกร้องมีพฤติการณ์‘หาเสียงใส่ร้ายคู่แข่ง’

‘ประธาน กกต.’ เผย ‘นายก อบจ.ลำพูน’ พรรคส้ม ถูกร้อง หาเสียงใส่ร้ายคู่แข่ง อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นจังหวัด แจง ขั้นตอนใช้เวลาไม่เกิน 1 ปี

วันที่ 20 มี.ค.68 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กล่าวถึงกรณีสำนักงาน กกต.ลำพูน ตรวจสอบนายวีระเดช ภู่พิสิฐ นายก อบจ.ลำพูน พรรคประชาชน หลังถูกร้องเรียน ว่า ขณะนี้มี 1 คำร้อง ตามมาตรา 66 และมาตรา 65 (5) โดยเรื่องยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน กกต.ลำพูน หากเห็นว่ามีข้อเท็จจริง มีหลักฐานเบื้องต้นเพียงพอ ก็จะรับเป็นสำนวน และเข้าสู่กระบวนการสืบสวนไต่สวน ตามระเบียบว่าด้วยการสืบสวนไต่สวน กกต. เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้น ก็จะให้ผอ.กกต.ประจำจังหวัด ให้ความเห็นประกอบ ก่อนจะส่งเข้ามายังกกต.ส่วนกลาง จากนั้นกกต.ส่วนกลาง ก็จะต้องจัดทำความเห็นโดยเลขาธิการ กกต. แล้วเข้าสู่ชั้นอนุกรรมการ ก่อนจะส่งเรื่องไปยังกรรมการ กกต. แต่ถ้าหากเห็นว่า คำร้องดังกล่าวมีข้อมูลไม่เพียงพอ แล้วจะยกคำร้อง ก็ต้องเสนอมายังที่ประชุม กกต.

เมื่อถามว่า คำร้องที่ดังกล่าวระบุพฤติการณ์ของนายวีระเดช เป็นการหาเสียงใส่ร้ายคู่แข่งหรือไม่ นายอิทธิพร ระบุว่า ทำนองนั้น แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นเรื่องร้องเรียน เพราะต้องให้อิสระในการทำงานทุกขั้นตอน

ขณะที่กรอบระยะเวลาในการดำเนินการนั้น นายอิทธิพร อธิบายว่า ในระดับจังหวัดให้เวลา 90 วัน โดยคณะสืบสวนไต่สวนรับเรื่องมาแล้ว ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลาแรก 20 วัน แต่หากต้องหาพยานหลักฐาน และสอบปากคำพยานบุคคล ก็ขยายได้เพิ่มครั้งละ 15 วัน แต่ไม่เกิน 90 วัน ซึ่งเมื่อส่งเรื่องมาถึงส่วนกลางให้เวลา 60 วัน ก่อนจะเสนอไปยัง คณะอนุกรรมการวินิจฉัยและชี้ขาดคดี ซึ่งต้องใช้เวลาอีก 90 วัน โดยเมื่อครบกรอบเวลาแล้วต้องเสนอ กกต.พิจารณาโดยไม่ชักช้า กระบวนการทั้งหมดให้ใช้เวลาได้ไม่เกิน 1 ปี เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน

ทั้งนี้ ภาพรวมการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง อบจ. นายอิทธิพร กล่าวว่า ขณะนี้การประกาศผลรับรองทั้งนายก อบจ. และสมาชิก อบจ. ประกาศทั้งหมดแล้ว แต่สมาชิก อบจ. มีอยู่ 2 กรณีที่ไม่ได้มีการประกาศ คือ จ.ฉะเชิงเทรา และจ.ตราด ที่มีการให้ใบส้ม หลังรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ์ แต่ยังมาสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่า จะมีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 12 เมษายน นี้

ส่วนอีกกรณีที่ต้องเลือกตั้งใหม่จำนวน 3 จังหวัด จ.ตรัง จ.สุพรรณบุรี และจ.ชุมพร ซึ่งที่ต้องเลือกตั้งใหม่ เพราะว่ามีผู้สมัครคนเดียว แต่ได้คะแนนไม่ถึงร้อยละ 10 และได้คะแนนเสียงน้อยกว่าคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใด

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img