‘สุริยะ’ แจ้ง ‘กทพ.’ เตรียมเปิดใช้ทางขึ้น-ลง ทางด่วน ‘ด่านดินแดง’ พรุ่งนี้ ตี 5 ด้านผู้รับเหมาอาคารสูงเร่งประสาน กทม. เคลียร์ชิ้นส่วนเครนที่เหลือ เล็งรื้อย้ายช่วงดึก ไม่ให้กระทบจราจร
วันที่ 30 มี.ค.68 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา และส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของประเทศไทย และ กทม.เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ทำให้เครนก่อสร้างที่ติดอยู่บนอาคารสูง หล่นลงมาบริเวณใกล้ทางขึ้น-ลง ด่านฯ ดินแดงนั้น การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แม้จะไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ได้ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการขนย้ายอุปกรณ์ รวมถึงการรื้อย้ายเครนของอาคารสูงอย่างเต็มที่ รวมถึงให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาสัญจรได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด
ความคืบหน้าล่าสุด บริษัทผู้รับเหมาอาคารสูง ได้ตัดชิ้นส่วนทาวเวอร์เครนบางส่วน และจัดเก็บชิ้นส่วนโมบายเครนเสร็จแล้ว พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องจักรที่ใช้ในการรื้อถอนทาวเวอร์เครน (Derick crane) เพื่อตัดเก็บชิ้นส่วนที่เหลือ โดยจากการพิจารณาของคณะทำงานให้คำปรึกษาการรื้อถอนทาวเวอร์เครนโครงการแอสบาาย วิภา-วิคตอรี่ ที่เสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว พบว่า ความคืบหน้าของงานเป็นไปตามแผนฯ ในเบื้องต้น ยังมีชิ้นส่วนของเครนบางส่วน ซึ่งยังไม่สามารถรื้อถอนได้ แต่ได้มีการยึดรั้งไว้อย่างหนาแน่น
ทั้งนี้ หลังจากนี้ บริษัทผู้รับเหมาอาคารสูง จะต้องประสานงานกับ กทม. ในการกำหนดวิธีรื้อย้ายชิ้นส่วนเครนส่วนที่เหลือต่อไป โดยจะต้องดำเนินการช่วงเวลาดึก เพื่อกระทบต่อการจราจรน้อยที่สุด ส่วนจะเริ่มดำเนินการเมื่อใดนั้น จะต้องประชาสัมพันธ์ประชาชนทราบต่อไป
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าว คณะทำงานฯ ได้ประเมินแล้วว่า มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ทาง ดังนั้น กทพ. เตรียมพร้อมจะเปิดให้บริการทางขึ้น-ลงด่านดินแดง ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ในวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 05.00 น เป็นต้นไป เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชน และแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณดังกล่าว โดยคำนึงด้านความปลอดภัยสูงสุด
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมานั้น พบว่า โครงข่ายทางถนนภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม อาทิ กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ กทพ. ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด มีความพร้อมในการรองรับการเดินทางของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทั้งนี้ หากประชาชนพบปัญหาในการเดินทาง หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถแจ้งเรื่อง และสอบถามได้ที่สายด่วนศูนย์ปลอดภัยคมนาคม โทร.1356 (ตลอด 24 ชั่วโมง)