ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 17.36 จุด รับแรงกดดันสงครามทางการค้า-แรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์-อสังหาริมทรัพย์ หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว มองแนวโน้มพรุ่งนี้ซึมต่อ ให้แนวรับแรกที่ 1,155 จุด ถัดไป 1,150 จุด แนวต้านแรกที่ 1,165
นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,158.09 จุด ลดลง 17.36 จุด หรือ 1.48% ด้วย มูลค่าซื้อขาย 40,260.73 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ทิศทางปรับลงจากปัจจัยต่างประเทศที่กังวลสงครามการค้าที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐเตรียมประกาศมาตรรภาษีตอบโต้ในวันที่ 2 เม.ย. และเมื่อวันศุกร์ที่ 28 มี.ค.สหรัฐรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE) เร่งตัวขึ้น ทำให้ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะลดการปรับลดดอกเบี้ยลงหรือลดข้าลงในปีนี้
ส่วนปัจจัยในประเทศ เผชิญแรงขายออกมามากในกลุ่มแบงก์และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งภาพอสังหาฯไม่ดีอยู่แล้ว ที่ผ่านมาภาครัฐได้ออกมาตรการช่วยเหลือ แต่เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวทำให้มาตรการดังกล่าวแทบไม่มีผล และเหตุการณ์นี้ยิ่งจะทำให้ตลาดอสังหาฯ ซบเซาต่อไป ส่วนกลุ่มแบงก์ก้มีความกังวลหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย จึงมีแรงขายออกมาฉุดตลาด
สำหรับแนวโน้มพรุ่งนี้ คาดตลาดซึมตัวลง จากก่อนหน้าภาพตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงพอมีเหตุแผ่นดินไหวก็ยิ่งสร้างให้ภาพตลาดอ่อนตัวไปอีก อย่างไรก็ดี ให้จับตา 2 เม.ย.ที่สหรัฐจะประกาศมาตรการภาษีตอบโต้อาจส่งผลกลับมากดดันตลาดหุ้นไทยเพิ่มเติมอีก พร้อมให้แนวรับแรกที่ 1,155 จุด ถัดไป 1,150 จุด แนวต้านแรกที่ 1,165 และแนวต้านถัดไปที่ 1,170 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,086.09 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,707.74 ล้านบาท ปิดที่ 123.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,533.57 ล้านบาท ปิดที่ 65.75 บาท ลดลง 3.25 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,226.65 ล้านบาท ปิดที่ 37.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,222.68 ล้านบาท ปิดที่ 275.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท