“จินดารัตน์” เผยผลกระทบแผ่นดินไหว-ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าไทย 36%ฉุดจีดีพีขยายตัวต่ำกว่า 2% ขณะที่หนี้สาธารณะต่อจีดีพีไม่เกินระดับ 70% จึงไม่น่าจะส่งผลต่อเครดิตเรตติ้งของประเทศ
นางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล ที่ปรึกษาด้านหนี้สาธารณะ ในฐานะโฆษกสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยถึงกรณีที่ไทยเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย 36%ว่า จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ขยายตัวต่ำกว่า 2% แต่อัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี จะยังคงไม่เกินระดับ 70% จึงไม่น่าจะส่งผลต่อเครดิตเรตติ้งของประเทศ
สำหรับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว มองว่าเป็นผลกระทบในระยะสั้นและไม่ได้มีความรุนแรงมากนัก แต่นโยบายภาษีของสหรัฐยังคงต้องรอดูรายละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากข้อเสนอการขึ้นภาษีของทรัมป์เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเจรจา ซึ่งจะต้องมีการหารือทวิภาคีกับแต่ละประเทศ
โดยเห็นว่าไทยน่าจะดำเนินนโยบายประนีประนอมและยอมรับเงื่อนไขบางประการเพื่อขอให้สหรัฐลดอัตราภาษีลง จึงเชื่อว่าผลกระทบโดยรวมจะไม่รุนแรง ซึ่งปกติสถาบันเครดิตเรตติ้งจะมีการประเมินจัดอันดับความน่าเชื่อถือประเทศปีละ 1 ครั้ง ส่วนใหญ่มีการเปิดเผยรายงานการประเมินไปแล้ว โดยยังคงอันดับประเทศไทยที่ระดับมีเสถียรภาพ อย่างไรก็ดี ปัจจัยหนี้สาธารณะต่อจีดีพี ก็เป็นปัจจัยที่อาจส่งผลให้มีการปรับเครดิตเรตติ้งได้ อีกทั้งพื้นที่ทางการคลัง (Fiscal Space) ในปัจจุบันมีค่อนข้างจำกัด
สำนักงานเศรษฐกิจการคลังรายงายภาวาะเศรษฐกิจการคลัง เดือนก.พ.2568 ระบุว่า ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนม.ค. 2568 อยู่ที่ 64.1% ต่อจีดีพี ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง และอยู่ที่สัดส่วน 67% ณ สิ้นปีงบประมาณ 2568 โดยเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนก.พ. 2568 ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 244.8 พันล้านดอลลาร์