“ซูเปอร์โพลเผยผลสำรวจ ‘ถอดบทเรียนตึกถล่ม’ ประชาชน 86.9% สะเทือนใจ สูญเสียศรัทธาต่อรัฐ 90.5% เรียกร้องเร่งเยียวยา เปิดรายละเอียดงบฯ-ผู้รับเหมา ขอโทษแสดงความรับผิดชอบ ตั้งกรรมการอิสระ-หน่วยกู้ภัยเฉพาะทาง หวั่นกระทบเชื่อมั่นรัฐในอนาคต”
เมื่อวันที่ 6 เม.ย.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยฯ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “ถอดบทเรียนตึกถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวในใจประชาชน” จากการศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,125 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 3 – 5 เมษายน 2568 พบว่า เหตุการณ์ตึกถล่มได้สร้างความสะเทือนใจอย่างยิ่งให้กับประชาชนถึงร้อยละ 86.9 ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงอารมณ์ร่วม แต่ยังเป็นฐานของพลังสังคมที่พร้อมสนับสนุนการเยียวยา
ในเชิงพฤติกรรม ประชาชนร้อยละ 84.6 ต้องการให้หน่วยงานเร่งเยียวยาทางการเงินโดยไม่ล่าช้า ขณะที่ร้อยละ 82.3 เรียกร้องให้รัฐออกมาขอโทษและแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจ ร้อยละ 80.3 ต้องการให้มีแพทย์สนามดูแลเจ้าหน้าที่กู้ภัย ร้อยละ 78.5 เรียกร้องให้รัฐตรวจสอบมาตรฐานอาคารและการจัดซื้อจัดจ้างทั่วประเทศ และร้อยละ 75.4 ต้องการให้พัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า
ที่น่าสนใจคือ ประชาชนถึงร้อยละ 91.8 เรียกร้องให้ “เปิดเผยรายละเอียดงบประมาณและผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารตึกถล่ม” สะท้อนความไม่ไว้วางใจในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ นอกจากนี้ ร้อยละ 89.2 เห็นว่าหน่วยงานรัฐและเอกชนควรขอโทษและแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจ ร้อยละ 88.6 เสนอให้ตั้ง “คณะกรรมการอิสระและเป็นกลาง” ตรวจสอบข้อเท็จจริง ร้อยละ 87.5 เรียกร้องให้จัดตั้งหน่วยกู้ภัยเฉพาะทางสำหรับอาคารถล่ม ร้อยละ 85.9 เห็นควรมี “ระบบเตือนภัยและแผนรับมือภัยพิบัติ” ในอาคารสูง ร้อยละ 83.7 ต้องการให้ปรับปรุงระบบสื่อสารภาครัฐให้ถูกต้องรวดเร็ว และร้อยละ 80.4 สนับสนุนการยกระดับมาตรการตรวจรับงานก่อสร้าง
ที่น่าพิจารณาอย่างยิ่งคือ ประชาชนส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 90.5 เห็นว่าหน่วยงานรัฐจำเป็นต้อง “เร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นและศรัทธา” ซึ่งเป็นข้อค้นพบที่มีนัยสำคัญต่อเสาหลักของรัฐประชาธิปไตย โดยมีเพียงร้อยละ 3.6 เท่านั้นที่ระบุว่ามีความเชื่อมั่นน้อยถึงไม่เลย ผอ.ซูเปอร์โพล ชี้ว่า เหตุการณ์ตึกถล่มครั้งนี้ไม่ใช่แค่โศกนาฏกรรมทางกายภาพ แต่เป็น “แรงสั่นสะเทือนในใจประชาชน” ต่อความเชื่อมั่นในระบบราชการ เปรียบเสมือนแผ่นดินไหวอีกครั้งที่เขย่าโครงสร้างสังคม คุณธรรม และความเชื่อมั่นของรัฐอย่างรุนแรง ประชาชนไม่ได้ต้องการเพียงความช่วยเหลือเฉพาะหน้า แต่โหยหาความโปร่งใส ยุติธรรม และความจริงใจจากภาครัฐ
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวทิ้งท้ายว่า หากรัฐสามารถเปลี่ยน “วิกฤตความเชื่อมั่น” ให้เป็น “โอกาสแห่งการฟื้นฟู” อย่างมีระบบและด้วยหัวใจของผู้ปกครองที่ดี จะสามารถเยียวยาไม่เพียงผู้ประสบภัย แต่ยังรวมถึงความศรัทธาที่พังทลายในใจประชาชนทั้งประเทศด้วย
