‘สุริยะ’ เผย ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ จำเป็นหลังสหรัฐฯ ขึ้นภาษี หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ย้ำรัฐบาลศึกษามาตรการคุมเข้มพนันแล้ว พร้อมปัดข่าว ‘ทักษิณ’ สั่งพรรคร่วม โยนสภาฯ ถกรายละเอียด
เมื่อวันที่ 8 เม.ย.68 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกระแสคัดค้านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า หลังจากสหรัฐอเมริกาเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้น ทำให้การค้าของไทยจำเป็นต้องปรับตัว เนื่องจากเผชิญกับกำแพงภาษี รัฐบาลไทยจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหารายได้ใหม่ๆ ซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวถือเป็นส่วนสำคัญที่สุด ดังนั้น เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จึงเป็นทางออกในการสร้างรายได้ใหม่ๆ ให้กับประเทศ
สำหรับข้อกังวลเกี่ยวกับปัญหาการติดการพนัน นายสุริยะ ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง แต่รัฐบาลได้ศึกษาแนวทางป้องกันอย่างรอบคอบ โดยยกตัวอย่างประเทศสิงคโปร์ที่มีองค์กรเฉพาะ หากสมาชิกในครอบครัวของผู้เข้าไปเล่นการพนันไม่เห็นด้วย สามารถร้องเรียนไปยังองค์กรดังกล่าวเพื่อขึ้นบัญชีดำ (แบล็คลิสต์) ไม่ให้บุคคลนั้นเข้าไปเล่นอีก ซึ่งประเทศไทยก็จะมีหน่วยงานในลักษณะเดียวกันนี้เช่นกัน
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า รายละเอียดอื่นๆ สามารถพูดคุยกันในสภาได้ ส่วนเสียงคัดค้านนั้น เชื่อว่าหากมีการอภิปรายในสภา ส.ส. ที่สนับสนุนจะสามารถอธิบายให้ประชาชนเข้าใจและมองในทุกมิติได้ แต่หากไม่ดำเนินการใดๆ จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย รวมถึงปัญหาคนไทยเดินทางไปเล่นการพนันตามแนวชายแดนได้
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วย จะถูกขับออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายสุริยะ กล่าวว่า “ไม่มีหรอก เพราะท่านไม่มายุ่งเรื่องนี้อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นเรื่องของรัฐบาล”
ส่วนกระแสข่าวการนำพื้นที่ท่าเรือคลองเตยมาพัฒนาเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นายสุริยะ กล่าวว่า ที่ผ่านมารายได้หลักของท่าเรือมาจากการที่เรือมาจอดเทียบท่า รัฐบาลจึงต้องการพัฒนาพื้นที่ให้มีรายได้มากขึ้น หากมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในบริเวณนั้น ก็จะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นได้
เมื่อถามย้ำว่า เรื่องนี้อยู่ในแผนแม่บทการพัฒนาท่าเรือคลองเตยหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า หากมีผู้สนใจจะเข้ามาพัฒนาพื้นที่ท่าเรือคลองเตยเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ การท่าเรือจะต้องพิจารณาว่าท่าเรือจะได้รับประโยชน์อย่างไร หรือหากให้เช่าพื้นที่เพื่อทำธุรกิจอื่นแล้วมีรายได้ดีกว่า ก็เป็นเรื่องที่การท่าเรือจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
