สศค.ประเมินตัวเลขเบิกจ่ายลงทุน 6 เดือน ทำได้เพียง 2.3 แสนล้านบาท คิดเป็น 26.3% ต่ำกว่าเป้าหมายที่กรมบัญชีกลางคาดการณ์ไว้ที่ 35% คาดช่วงที่เหลือของปีต้องเร่งเบิกจ่ายอีก 5 แสนล้าน โดยเฉพาะ 5 กระทรวงหลัก
รายงานข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) แจ้งว่า การเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ 68 ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (1 ต.ค. 67 – 31 มี.ค. 68) พบว่า วงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนหลังโอนเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 9.3 แสนล้านบาท แต่สามารถเบิกจ่ายได้เพียง 2.3 แสนล้านบาท คิดเป็น 26.3% เท่านั้น ซึ่งหากรวมการก่อหนี้ผูกพัน ยอดการใช้จ่ายจะอยู่ที่ 4.4 แสนล้านบาท คิดเป็น 46.7%
โดยตัวเลขอัตราการเบิกจ่ายจริงที่ 26.3% นี้ ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่กรมบัญชีกลางคาดการณ์ไว้ ณ สิ้นเดือน มี.ค. 68 ที่ 35% อย่างชัดเจน และยังห่างไกลจากเป้าหมายโดยรวมที่ 80% ณ สิ้นสุดปีงบประมาณ จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้จำเป็นต้องมีการเร่งรัดการเบิกจ่ายการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ (1 เม.ย. – 30 ก.ย. 68) โดยมีวงเงินงบประมาณที่ต้องเบิกจ่ายอีกถึง 5 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 53.7% ของวงเงินทั้งหมด เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมาย 80% ที่ตั้งไว้ได้
ทั้งนี้ได้ผลักดันการเบิกจ่ายงบประมาณใน 5 กระทรวงที่มีวงเงินงบประมาณลงทุนสูง ได้แก่ กระทรวงคมนาคม 1.8 แสนล้านบาท กระทรวงมหาดไทย 1.0 แสนล้านบาท กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 8.8 หมื่นล้านบาท กระทรวงกลาโหม 4.2 หมื่นล้านบาท และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 3.1 หมื่นล้านบาท รวมถึงการเร่งรัดการลงทุนในจังหวัดที่มีวงเงินขนาดใหญ่ เช่น นครราชสีมา ชลบุรี สมุทรปราการ เชียงใหม่ และขอนแก่น
” อัตราการเบิกจ่ายสะสมในช่วง 6 เดือนแรกจะยังต่ำกว่าเป้าหมาย แต่ข้อมูลการเบิกจ่ายงบประมาณรวมในเดือน ก.พ. 2568 ที่ขยายตัวถึง 13.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน และรายจ่ายลงทุนในเดือน ก.พ. ที่ขยายตัวสูงถึง 113.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน อาจเป็นสัญญาณที่ดีที่ต้องรักษาโมเมนตัมนี้ไว้ในช่วงที่เหลือของปี”
ทั้งนี้ การเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนภาครัฐในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2568 ยังเป็นความท้าทายสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะในกระทรวงและพื้นที่สำคัญ จะเป็นปัจจัยชี้ขาดว่ารัฐบาลจะสามารถใช้จ่ายงบประมาณลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้หรือไม่ในช่วงครึ่งปีหลัง