วันศุกร์, เมษายน 25, 2025
หน้าแรกHighlightอาหารสุดฮิตที่กินทุกวันกำลังทำลายชีวิต หยุดกินด่วน!!“อร่อยปาก”แต่“ร้ายถึงตาย”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

อาหารสุดฮิตที่กินทุกวันกำลังทำลายชีวิต หยุดกินด่วน!!“อร่อยปาก”แต่“ร้ายถึงตาย”

หยุดกินด่วน! อาหารเหล่านี้อร่อยจนหยุดไม่ได้ แต่กำลังฆ่าคุณผ่อนส่ง! หมอเตือน 5 โรคร้ายใกล้ตัว ที่ซ่อนอยู่ในของกินที่คุณคุ้นเคย! รู้แล้วรีบเปลี่ยนชีวิต!

เมื่อวันที่ 25 เม.ย.นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ “หมอเจด” ระบุว่า เชื่อว่า เราทุกคนชอบของอร่อย รวมไปถึงชีวิตประจำวันเรามันเร่งรีบมากขึ้น

เราเลยกินอาหาร “Ultra-Processed Food” (UPF) หรือ “อาหารแปรรูปขั้นสูง” มากขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นขนมถุง ข้าวกล่อง น้ำหวาน หรืออาหารแช่แข็ง จริงๆ แล้วมันอาจไม่ใช่ “อาหาร” ในความหมายที่แท้จริงก็ได้

ในหนังสือ Ultra-Processed People: อร่อยลวงตาย คุณหมอ Chris van Tulleken

เล่าถึง “Ultra-Processed Food” (UPF) หรือ “อาหารแปรรูปขั้นสูง” ว่าเป็นอาหารที่ถูกออกแบบมาให้เรากินเพลิน ติดใจ

แต่เต็มไปด้วยสิ่งที่ร่างกายไม่ต้องการ เช่น น้ำตาล ไขมันทรานส์ สารแต่งกลิ่น สารปรุงแต่ง ฯลฯ

สิ่งที่น่ากังวลคือ อาหารพวกนี้กำลังกลายเป็นอาหารหลักของคนยุคใหม่โดยไม่รู้ตัว

และที่สำคัญ มันไม่ได้ทำให้แค่ “อ้วน” แต่มันเป็นจุดเริ่มต้นของโรคเรื้อรังร้ายแรงหลายโรคเลยทีเดียว

UPF เกี่ยวข้องกับ 5 โรคร้ายถึงตุยยังไง และเราจะปรับยังไงได้บ้าง โดยไม่ต้องเครียดเกินไป เดี๋ยวผมอธอบายให้ฟังนะ

1. โรคหัวใจและหลอดเลือด (รวมถึงหลอดเลือดสมอง)

ในหนังสือเขียนอธิบายไว้นะว่า UPF เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจโดยตรง ทั้งผ่านการเพิ่ม LDL (ไขมันเลว), กระตุ้นการอักเสบในหลอดเลือด และเพิ่มความดันโลหิต

ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง

ในไทยเอง หรือถ้าเราสังเกต คนไข้หัวใจวายเฉียบพลัน มักไม่ได้เป็น “คนชอบกินมัน” อย่างที่คนทั่วไปคิด

แต่คือคนที่กินแบบไม่รู้ตัวกาแฟเย็น+โดนัททุกเช้า เบอร์เกอร์ดึกๆ หลังเลิกงาน หรือขนมถุงหลังอาหารเย็น นั่นแหละ UPF ตัวร้าย

สิ่งที่ผมมักบอกพวกเขาคือ “ไม่ต้องเลิกขาดทันที แต่อย่ากินมันโดยไม่รู้ว่ามันคืออะไร” เริ่มแค่ อ่านฉลากก่อนซื้อ ก็ลดความเสี่ยงได้มากแล้วครับ

2. โรคมะเร็ง (ลำไส้ เต้านม)

จากหนังสือ Dr. Chris พูดถึงความเชื่อมโยงของ UPF กับมะเร็ง

โดยเฉพาะ ไนไตรต์/ไนเตรต ที่ใช้ในเนื้อแปรรูป เช่น แฮม ไส้กรอก เบคอน ซึ่งมีหลักฐานว่าส่งผลต่อการเกิดมะเร็งลำไส้

นอกจากนี้ UPF ยังมีผลต่อ จุลินทรีย์ในลำไส้ (gut microbiota) ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันและการควบคุมเซลล์ผิดปกติ

ในความเป็นจริง เรามักคิดว่ามะเร็งคือเรื่องกรรมพันธุ์ หรือโชคร้าย แต่จริงๆ แล้ว พฤติกรรมการกินแบบเดิมๆ ทุกวัน ก็มีผลมาก

คนไข้บางคนที่เป็นมะเร็งลำไส้ในวัยไม่ถึง 50 ปี ไม่มีประวัติครอบครัวเลย

แต่กินเนื้อแปรรูปกับอาหารฟาสต์ฟู้ดแทบทุกวัน ผมไม่ได้โทษอาหารอย่างเดียว แต่ผมอยากให้สังเกตการกิน และปรับนะ

3. โรคเบาหวานชนิดที่สอง

UPF ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นเร็ว ส่งผลให้เกิด “ภาวะดื้อต่ออินซูลิน” ซึ่งเป็นจุดเริ่มของโรคเบาหวานชนิดที่สอง

โดยเฉพาะอาหารที่มี น้ำตาลฟรุกโตสสูง (HFCS) อย่างน้ำอัดลม น้ำหวาน ขนมปังไส้หวาน ก็สาเป็นสาเหตุหลักๆ ของเบาหวานที่เราเจอ

ผมเองก็เป็นเบาหวานนะ บางทีเราก็ “ของหวานแบบไม่รู้ตัว” เช่น น้ำผลไม้กล่อง ขนมในเซเว่น ข้าวเหนียวหมูปิ้ง (พร้อมน้ำจิ้มหวาน)

สิ่งที่ผมแนะนำคือ “ตัดหวานที่ไม่รู้ตัวก่อน” แล้วค่อยคุมอาหารอื่นๆ ตามมา ซึ่งผมก็แนะนำหลายคนแบบนี้

หลายคนกลับมาด้วยน้ำตาลลดโดยไม่ต้องปรับยา เพราะพวกเขาแค่ หยุดน้ำหวานเย็นๆ ทุกวัน ครับ

4. โรคสมองเสื่อม

สารเคมีบางชนิดใน UPF เช่น emulsifiers, flavor enhancers และสารกันเสีย

สามารถกระตุ้นการอักเสบแบบเรื้อรัง ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของสมอง และอาจเกี่ยวข้องกับการพัฒนาโรคอัลไซเมอร์

พอเราพูถึงเรื่อง อัลไซเมอร์ หลายคนคิดว่า คือเรื่องของผู้สูงอายุ

แต่ความจริงคือ พฤติกรรมของเราในวัย 30-40 มีผลต่อสมองในวัย 70

การกิน UPF อย่างต่อเนื่อง = การเร่งอายุสมอง

ผมแนะนำแบบนี้นะว่า ให้เริ่มเปลี่ยนง่ายๆ เช่น กินผลไม้สดแทนขนมซองระหว่างวัน หรือถ้าอยากกินขนม

ให้เลือกแบบทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ มันไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติ แต่คือการดูแลสมองระยะยาวครับ

5. โรคไขมันพอกตับ (NAFLD)

Dr. Chris เตือนถึง UPF ที่มีน้ำตาลฟรุกโตสสูง โดยเฉพาะจาก น้ำอัดลมและขนมสำเร็จรูป

ว่ามีผลโดยตรงต่อการสะสมไขมันในตับ และหากไม่จัดการ อาจลุกลามเป็น ตับอักเสบ ตับแข็ง หรือมะเร็งตับ

ผมก็พูดอยู่บ่อยๆนะว่า โรคไขมันพอกตับ เป็นโรคที่ไม่มีอาการ

พบมากขึ้นในคนอายุน้อย และส่วนใหญ่มารู้ตัวตอนทำอัลตร้าซาวด์เจอโดยบังเอิญ

ใครที่กินหวานทุกวัน ดื่มน้ำอัดลมบ่อย แถมยังไม่ออกกำลังกาย ตับคุณอาจพอกไขมันแล้วโดยไม่รู้ตัว

เพราะฉะนั้น โรคนี้ย้อนกลับได้ ถ้าเริ่มจากจานข้าววันนี้ เลิกหวาน ลดแป้ง กินผักทุกมื้อ

อ่านจนถึงตรงนี้แล้ว ผมไม่ได้บอกให้คุณ “เลิกกินขาด” ในวันนี้เลยนะ

แต่แค่อยากให้เริ่มจากการ “รู้ว่าเรากินอะไร”

แค่นั้นก็เพียงพอจะเปลี่ยนโรคให้ช้าลง และเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นได้แล้ว

สุขภาพดีเริ่มได้จากจานต่อไปครับ ใครมีคำถามคอมเมนต์ได้เลยนะ

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img