“อรมน” เผยไตรมาส 1/68 ต่างชาติลงทุนในไทย 4.7 หมื่นล้านบาท ญี่ปุ่นครองแชมป์ 1.59 หมื่นล้านบาท รองลงมาคือ จีน 6 พันล้านบาท และ สิงคโปร์ 4 พันกว่าล้านบาท
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ไตรมาส 1/68 (มกราคม-มีนาคม) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 205 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 47,033 ล้านบาท จ้างงาน 1,605 คน เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส1/67 พบว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจ ในประเทศไทย 178 ราย มูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น 11,131 ล้านบาท หรือ 31% รวมถึงมีการจ้างงานคนไทยจากนักลงทุนที่ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 845 ราย
โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรกของไตรมาสแรก ปี 2568 ได้แก่ 1.ญี่ปุ่น 57 ราย คิดเป็นร้อยละ 21 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 15,915 ล้านบาท ในธุรกิจจัดหาจัดซื้อ วัตถุดิบ ชิ้นส่วนและส่วนประกอบสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่นอุตสาหกรรมทางการแพทย์ เป็นต้น เพื่อค้าส่งในประเทศ ธุรกิจบริการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ การเปลี่ยนและทำการเชื่อมต่อท่อส่งใต้ทะเล ระหว่างแท่นหลุมผลิตในโครงการขุดเจาะน้ำมัน
ธุรกิจบริการสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานพาหนะไฟฟ้า ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง ชิ้นส่วนยานพาหนะ ชิ้นส่วนจับยึดเครื่องมือตัด
2.สหรัฐอเมริกา 35 ราย คิดเป็นร้อยละ 13 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 1,490 ล้านบาท ในธุรกิจ ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป อุปกรณ์โทรคมนาคม เครื่องสำอาง ธุรกิจบริการคลังสินค้า ธุรกิจบริการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อให้บริการดิจิทัล ธุรกิจบริการรับจ้างผลิต ได้แก่ สิ่งปรุงแต่งอาหาร โลหะผสมสำหรับผลิตเครื่องประดับ
3.จีน 34 ราย คิดเป็นร้อยละ 12 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติ เงินลงทุน 6,083 ล้านบาท ในธุรกิจจัดหาจัดซื้อวัตถุดิบ ชิ้นส่วนและส่วนประกอบสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ชิ้นส่วนโลหะ เป็นต้น เพื่อค้าส่งในประเทศ ธุรกิจบริการดำเนินพิธีการศุลกากรในเขตปลอดอากร (Free Zone) ธุรกิจบริการให้เช่าอาคารโรงงานพร้อมสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า ได้แก่ อุปกรณ์สำหรับเครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนเครื่องจักรอุตสาหกรรม ชิ้นส่วนโลหะ ชิ้นส่วนยานพาหนะ
4.สิงคโปร์ 31 ราย คิดเป็นร้อยละ 11 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติ เงินลงทุน 4,950 ล้านบาท ในธุรกิจบริการออกแบบ จัดซื้อ จัดหา ติดตั้ง ทดสอบ ตลอดจนการฝึกอบรม การให้คำปรึกษาแนะนำด้านการปฏิบัติการของงานระบบควบคุมกำกับดูแลและเก็บข้อมูล สำหรับโครงการรถไฟฟ้า
ธุรกิจบริการศูนย์กระจายสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัย ธุรกิจบริการ Data Center ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า ได้แก่ อาหารสัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม Printed Circuit Board ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น ผลิตภัณฑ์โลหะและชิ้นส่วนโลหะ
5.ฮ่องกง 22 ราย คิดเป็นร้อยละ 8 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 3,655 ล้านบาท ในธุรกิจบริการศูนย์กระจายสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัย ธุรกิจบริการสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานพาหนะไฟฟ้า ธุรกิจบริการ Data Center ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า ได้แก่ แก้วเก็บความร้อน ผลิตโครงที่นั่งยานพาหนะ กระดาษลูกฟูก อะไหล่และส่วนประกอบรถยนต์ ชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรม
โดยถือได้ว่าการเข้ามาประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในไทยในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมข้างต้น มีส่วนช่วยในการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของระบบควบคุมกำกับดูแลและเก็บข้อมูลสำหรับโครงการรถไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับสถานีจัดประจุไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับระบบจัดการเชื้อเพลิงอัจฉริยะ องค์ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมจัดการคลังสินค้า เป็นต้น