เทศบาลเกมอำนาจ? โพลสวนดุสิตฯ เจาะลึก “ศึกชิงเก้าอี้” ท้องถิ่น เงินหาเสียง-บารมีนักการเมืองยังขลัง ประชาชนหวัง “ของจริง” หลังเลือกตั้ง ไม่ใช่แค่ “ลมปาก”
เมื่อวันที่ 27 เม.ย.68 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ จำนวน 1,137 คน ระหว่างวันที่ 22-25 เมษายน 2568 ในหัวข้อ “การเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ” พบว่าประชาชนส่วนใหญ่รับรู้ถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) และนายกเทศมนตรี ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 โดยมีผู้รับรู้สูงถึงร้อยละ 91.29 ซึ่งส่วนใหญ่ทราบจากข่าวและการหาเสียง
ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าประชาชนให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งท้องถิ่นค่อนข้างมาก โดยร้อยละ 53.39 มองว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นมีความสำคัญต่อการพัฒนาท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม มีเพียงร้อยละ 65.44 ที่คาดว่าจะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ในขณะที่ร้อยละ 21.72 ยังไม่แน่ใจ
ประเด็นที่น่าสนใจคือ ประชาชนร้อยละ 52.59 มองว่าผู้สมัครที่มีนักการเมืองหรือพรรคการเมืองสนับสนุนจะค่อนข้างได้เปรียบในการเลือกตั้ง โดยนางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่สร้างความได้เปรียบในสนามเลือกตั้งท้องถิ่นคือ เงินทุนในการหาเสียงและอิทธิพลของ “บ้านใหญ่” ในแต่ละพื้นที่ รวมถึงพรรคการเมืองที่สนับสนุน
นอกจากนี้ ประชาชนร้อยละ 48.02 มองว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นมีการใช้เงินจำนวนมากในการหาเสียง/ซื้อเสียงเหมือนกับการเลือกตั้งระดับชาติ
สำหรับความคาดหวังหลังการเลือกตั้ง ประชาชนร้อยละ 52.15 ต้องการเห็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และถนนหนทางในชุมชน รวมถึงเรื่องใกล้ตัวที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยตรง เช่น ไฟฟ้า ประปา ปากท้อง และค่าครองชีพ
ดร.มุทิตา มากวิจิตร์ อาจารย์ประจำหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชากฎหมายปกครองและการบริหารงานภาครัฐ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า สิ่งสำคัญภายหลังการเลือกตั้งคือ สท. และนายกเทศมนตรีที่ได้รับการเลือกตั้งจะต้องทำงานเชิงรุก ขับเคลื่อนนโยบายให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม และควรให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่น รวมถึงเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ และส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่ท้องถิ่นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างยั่งยืน
