สส.เพื่อไทย “วิสุทธิ์” ปฏิเสธข่าว “ทักษิณ” แทรกแซงการทำงานของรัฐบาล เผยการหารือเป็นเพียงการปรึกษาในบางเรื่องที่เคยทำสำเร็จ พร้อมเผย พรรคเตรียมประชุม 13 พ.ค. เน้นถกประเด็นงบประมาณรายจ่ายปี 69 ที่จะเข้าสภาฯ!
เมื่อวันที่ 10 พ.ค นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 คน จากกรณีการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับรัฐบาล เนื่องจากนายทักษิณไม่ได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่ใดๆ ในรัฐบาล ไม่ได้เข้ามาควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน เพียงแต่ในบางประเด็นที่รัฐบาลหรือรัฐมนตรีอาจจะขอคำปรึกษาหารือจากนายทักษิณในเรื่องที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว เช่น การปราบปรามยาเสพติด หรือโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค
นายวิสุทธิ์ ยืนยันว่า ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ตนเองไม่เคยได้รับการติดต่อหรือสั่งการจากนายทักษิณให้ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น “ยังไม่เคยได้รับโทรศัพท์จากนายทักษิณสักครั้งหนึ่งว่าให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่มีมาแทรกแซงเราเลย เพราะฉะนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นเรายังเชื่อว่าขบวนการยังไม่สิ้นสุด” นายวิสุทธิ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยจริงนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า นายทักษิณเองก็ยืนยันว่าป่วยจริง แต่รายละเอียดของการป่วยยังอยู่ในกระบวนการต่อสู้ ซึ่งตนเองเชื่อมั่นว่าจะไม่มีปัญหาใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลได้
เมื่อถามถึงการประชุม สส. พรรคเพื่อไทย ในวันที่ 13 พฤษภาคม จะมีการนำเรื่องนายทักษิณเข้ามาพูดคุยหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เรื่องของนายทักษิณไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยโดยตรง แม้ว่าจะเป็นอดีตหัวหน้าพรรคหรืออดีตนายกรัฐมนตรี หากมีประเด็นปัญหาที่ต้องแก้ไข หรือรัฐมนตรีจะไปพบปะปรึกษาหารือ ก็เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรค แต่เป็นการปรึกษาหารือเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมือง
นายวิสุทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วาระสำคัญของการประชุม สส. พรรคเพื่อไทย ในวันที่ 13 พฤษภาคม คือ การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 28-30 พฤษภาคม โดยจะมีการหารือถึงรายละเอียดของงบประมาณในแต่ละส่วน ว่าส่วนใดควรได้รับการสนับสนุน หรือส่วนใดที่ไม่จำเป็นและควรตัดออกไป ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการงบประมาณทั้งจากฝ่ายค้านและรัฐบาลที่จะต้องร่วมกันพิจารณาอย่างรอบคอบ