เพื่อไทยชี้รัฐบาลต้องเร่งสื่อสารสร้างเชื่อมั่น ปมขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ และเศรษฐกิจซบเซา
เมื่อวันที่ 12 พ.ค. นายนพดล ปัทมะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผลสำรวจของสวนดุสิตโพลที่ระบุว่า ประชาชนกว่า 76% ไม่เชื่อมั่นต่อรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐอเมริกา โดยนายนพดลกล่าวว่า หากผลโพลดังกล่าวมาจากการดำเนินการที่มีมาตรฐาน รัฐบาลควรรับฟังและชี้แจงข้อมูลให้ประชาชนทราบอย่างชัดเจน ทั้งกรอบเวลาการดำเนินการและสาระสำคัญที่จะนำไปเจรจากับสหรัฐฯ ในภาพรวม
นายนพดลยังเสนอแนะให้รัฐบาลเร่งรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้เสีย ภาคเอกชน หอการค้า และสมาคมเกษตรกร ซึ่งรัฐบาลเองก็รับฟังอยู่แล้ว ทั้งนี้ สาเหตุที่ประชาชนไม่เชื่อมั่นอาจเป็นเพราะยังไม่ทราบว่ารัฐบาลได้ดำเนินการอะไรไปบ้าง การที่นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานคณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจงจึงเป็นประโยชน์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะรองนายกรัฐมนตรีที่เป็นหัวหน้าคณะเจรจา ควรสื่อสารให้มากขึ้น เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา
เมื่อถูกถามถึงมุมมองที่ประชาชนมองว่าเศรษฐกิจปัจจุบันไม่ดีขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล นายนพดลยอมรับว่าเศรษฐกิจขณะนี้ไม่ดีจริง แต่มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่เพียงเรื่องของรัฐบาลเท่านั้น โดยมีปัจจัยภายนอกที่กดดันเศรษฐกิจไทยอย่างมาก เช่น ภาษีตอบโต้ของสหรัฐอเมริกา และสงครามการค้าที่ส่งผลกระทบต่อคู่ค้าทั่วโลก
นอกจากนี้ นายนพดลยังกล่าวถึงจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะเกิดจากความไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัยของประเทศไทย ดังนั้น รัฐบาลต้องดำเนินการ 2 ส่วน คือ 1. เร่งแก้ไขปัญหายกระดับความปลอดภัยทุกด้านให้เป็นวาระแห่งชาติ และ 2. ต้องสื่อสารกับประชาชนให้มากขึ้น เนื่องจากขณะนี้เป็นสภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ หากประชาชนไม่ได้รับข้อมูลที่เพียงพอ แม้รัฐบาลจะดำเนินการอยู่ ก็อาจทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นได้