“เจ้าคุณยังติดพนัน! แล้วชาวบ้านจะเหลืออะไร?” “เทพไท” ยกเคสฉาว สอนรัฐบาล! อย่าคิดสั้นเปิดกาสิโน! หวั่นสังคมล่มจม!”ผลประโยชน์ทับซ้อน?”
เมื่อวันที่ 17 พ.ค.68 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.ประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความถึง กรณีพรรคเพื่อไทยเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ที่มีบ่อนกาสิโนเป็นส่วนประกอบ โดยยกกรณี “เจ้าคุณแย้ม” อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ที่ถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์วัด 300 ล้านบาท ไปเล่นการพนันออนไลน์ เป็นอุทาหรณ์
นายเทพไท ระบุว่า การที่พรรคเพื่อไทยเร่งผลักดันกฎหมายดังกล่าว โดยไม่สนใจกระแสคัดค้านจากสังคม และการที่รัฐบาลเร่งเจรจากับนักลงทุนต่างชาติอย่างคู่ขนานกันไปนั้น เป็นพฤติกรรมที่น่าสงสัยว่า อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือการตกลงกันไว้ล่วงหน้ากับกลุ่มทุนต่างๆ ตามที่มีกระแสข่าวลือหรือไม่
“อยากจะเตือนให้รัฐบาลกลับไปดูบทเรียน หรืออุทาหรณ์ ที่เกิดขึ้นกับพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ที่ถูกจับข้อหานำเงิน 300 ล้านบาทไปเล่นการพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นถึงระดับพระราชาคณะ บวชเรียนตั้งแต่อายุ 12 ปี ยึดถือพระธรรมวินัย 227 ข้อ ยังหลงเป็นทาสการพนันได้ นับประสาอะไรกับชาวบ้านคนธรรมดา ที่ถือศีล5ยังไม่ครบทุกข้อ จะไม่ตกเป็นทาสการพนันบ้าง” นายเทพไทกล่าว
นายเทพไท ยังแสดงความกังวลว่า หากรัฐบาลผลักดันโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีบ่อนกาสิโนจนสำเร็จ จะส่งผลให้สังคมไทยตกอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง คนไทยจะติดการพนันอย่างงอมแงม และเกิดปัญหาทางสังคมที่ยากเกินเยียวยา
“ถ้าหากรัฐบาลผลักดันให้เอนเตอร์เทนคอมเพล็กซ์ ที่มีบ่อนกาสิโนอยู่ด้วยจนประสบความสำเร็จ ยังนึกไม่ออกว่า สภาพสังคมไทยจะเป็นเช่นไร คนไทยจะติดการพนันกันงอมแงมแค่ไหน และเป็นปัญหาทางสังคมที่เกินกว่าจะเยียวยาได้” นายเทพไทกล่าวทิ้งท้าย