“สมศักดิ์” เร่งพิจารณาโทษแพทย์เคส “ทักษิณ” หลังแพทยสภาส่งมติมาแล้ว ย้ำทำตามกฎหมาย ไม่สามารถยับยั้งหรือปล่อยเฉยได้ หากข้อมูลครบ 15 วันรู้ผล ชี้ทุกคนในกระบวนการต้องระวัง ม.157
เมื่อวันที่ 20 พ.ค.68 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แพทยสภาส่งมติมาให้พิจารณาลงโทษแพทย์ 3 ราย กรณีส่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ได้รับข้อมูลจากคณะกรรมการ 4 ชุดแล้ว แต่ยังไม่ครบถ้วน หากข้อมูลครบ จะประชุมร่วมกับคณะกรรมการที่ตั้งตามมาตรา 25 เพื่อพิจารณาว่าจะยับยั้งหรือไม่ ย้ำทำตามกฎหมาย หากไม่ทำตามอาจถูกฟ้องร้อง
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จะพิจารณาจากข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำงานตามมาตรา 25 และรับฟังความเห็นจากคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นเป็นหลัก
ส่วนประเด็นที่อดีตแพทยสภาตั้งคำถามเรื่องอำนาจสภานายกพิเศษในการยับยั้งมติแพทยสภาใน พ.ร.บ.แพทยสภาฉบับใหม่นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “กฎหมายเขียนไว้ทำไม ต้องเปลี่ยนสิ งั้นก็ต้องไปเปลี่ยนกฎหมายใหม่ เพราะผมทำตามกฎหมาย”
เมื่อถามต่อว่า กำหนด 15 วันที่สภานายกพิเศษจะต้องพิจารณามติแพทยสภา จะเริ่มนับตั้งแต่วันไหน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าถ้าข้อมูลครบก็จะใช้เวลา 15 วันหลังจากได้รับหนังสือจากแพทยสภา ทั้งนี้ จากการขอข้อมูลไปครั้งที่ 2 หากได้กลับมาข้อมูลก็ครบแล้ว ซึ่งจะพยายามไม่ขอขยายเวลา ส่วนกรณีที่แพทยสภาแนบเอกสารว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยวิกฤติ นั้นเข้าใจว่ามีการพิจารณาไปหมดแล้ว แต่คณะกรรมการยังไม่ได้พูดถึง และเสนอความเห็นมายังสภานายกพิเศษ
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ว่า เกี่ยวข้องกับทุกคนในกระบวนการ รวมถึงตนเองและคณะกรรมการ จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบตามอำนาจหน้าที่ และได้อ่านหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากแพทย์โรงพยาบาลตำรวจแล้ว โดยได้ขอเอกสารจากแพทยสภาเพื่อตรวจสอบความสอดคล้องกับข้อร้องเรียน
กรณีที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ระบุว่า หากยับยั้งมติแพทยสภาโดยไม่มีเหตุผลทางการแพทย์ สภานายกพิเศษอาจโดนมาตรา 157 นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ทุกคนต้องถูกตรวจสอบโดยกฎหมาย โดยเฉพาะคณะกรรมการแพทยสภาทุกชุด ต้องระมัดระวังไม่ให้ขัดกับมาตรา 157 เพราะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ
