“รทสช.”เตรียมพร้อมเต็มที่สำหรับการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ระหว่างวันที่ 28-31 พ.ค.นี้ ยืนยันเน้นประสิทธิภาพการจัดสรรงบประมาณที่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ พร้อมเตือนฝ่ายค้านให้อภิปรายในประเด็นสร้างสรรค์ ไม่ใช่โจมตีรัฐบาล
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยถึงความพร้อมของพรรคในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-31 พฤษภาคมนี้
นายอัครเดชระบุว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค ได้เรียกประชุม ส.ส.ของพรรคในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการกำหนดกรอบแนวทางการอภิปรายและการวางตัวผู้อภิปราย โดยยืนยันว่ากรอบแนวทางของพรรคจะยังคงจุดยืนเดิม คือ การอภิปรายให้เห็นถึงการจัดสรรงบประมาณที่ต้องมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน
โฆษก รทสช. กล่าวต่อว่า จากการพิจารณาศึกษารายงานร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 ของ ส.ส. พบว่า ยังมีบางหน่วยงานที่จัดสรรงบประมาณไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน โดยเฉพาะในแง่ทางด้านเศรษฐกิจ ทำให้ ส.ส.ของพรรคได้เตรียมข้อมูลไว้แล้ว เพื่อที่จะอภิปรายพร้อมให้ข้อเสนอแนะกับรัฐบาล ทั้งในการประชุมชั้นรับหลักการวาระแรกที่จะมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ และในวาระที่ 2 ในชั้นคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งจะมีการพิจารณาหลังการลงมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติในวาระแรก
ในขณะเดียวกัน นายอัครเดชได้ฝากถึงฝ่ายค้านให้เข้าใจว่า เวทีการประชุมนี้ ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ดังนั้นจึงขอให้อภิปรายให้อยู่ในประเด็นและกรอบแนวทางที่วางไว้ ไม่ใช่การฉวยโอกาสใช้เวทีนี้มาเป็นการอภิปรายโจมตีรัฐบาลหรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจแทน ซึ่งจะผิดข้อบังคับการประชุมสภา และยังจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณดังกล่าวอีกด้วย
“หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในการพิจารณาจะไม่มีการพูดเสียดสี การสร้างวาทกรรมทางการเมือง หรือการโจมตีรัฐบาลจากฝ่ายค้าน เพราะตลอดการอภิปรายประชาชนจะได้รับชมถ่ายทอดสดไปพร้อมกัน ซึ่งคาดหวังให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และขอฝากไปยังทุกฝ่ายให้มุ่งเน้นการให้ข้อเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ” นายอัครเดช กล่าวทิ้งท้าย.