“ชูศักดิ์”ยืนยันให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ทำงานอย่างอิสระ ตรงไปตรงมา กรณีพรรคภูมิใจไทยเรียกร้องให้จับกุม นายณฐพร โตประยูร ก่อนคดีหมดอายุความ 15 มิ.ย. ลั่น DSI รู้หน้าที่ ใครดึงเรื่องมีสิทธิ์โดนเอง ไม่กังวลปมการเมือง เหน็บนักการเมืองคิดเยอะเรื่องคดีฮั้ว สว.
วันที่ 28 พ.ค. นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เรียกร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ติดตามจับกุม นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เนื่องจากเกรงว่าคดีจะหมดอายุความ
นายชูศักดิ์ยืนยันว่า “ทั้งหมดขึ้นอยู่กับอำนาจหน้าที่ของดีเอสไอ ซึ่งต้องดูว่าต้นเรื่องเป็นอย่างไร ท้ายที่สุดหากมีความจำเป็นต้องทำอย่างไรหรือไม่ ซึ่งตนได้บอกดีเอสไอไปแล้วว่า ให้มีความเป็นอิสระตามอำนาจหน้าที่กฎหมาย และทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการกลั่นแกล้งหรือช่วยเหลือใคร”
เมื่อถูกถามย้ำว่าจำเป็นต้องกำชับ DSI อีกครั้งหรือไม่ เนื่องจากคดีจะหมดอายุความในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ นายชูศักดิ์กล่าวว่า DSI รู้อยู่แล้วว่าควรทำอย่างไร ตนไม่จำเป็นต้องไปกำชับ เพราะผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเมื่อดูเรื่องแล้ว หากเห็นว่าจำเป็นต้องดำเนินการอย่างไร ก็ว่ากันไป ส่วนตนเพียงกำกับดูแลให้พวกเขาทำตามกฎหมายเท่านั้น
กรณีที่พรรคภูมิใจไทยเกรงว่าจะถูก DSI ดึงเรื่องนั้น นายชูศักดิ์ตอบทันทีว่า “ถ้าดึงเรื่องเขาก็โดนสิ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเขาดึงเรื่องเขาโดน ผมว่าเขารู้หน้าที่ของเขา เขาเป็นพนักงานสอบสวนทำหน้าที่มาไม่รู้กี่ครั้งกี่หนแล้ว กฎหมายเขียนอย่างไร หน้าที่มีอย่างไรก็ทำไปตามนั้น ตนไม่มีอำนาจกำชับ หรือสั่งเขา ผมเพียงมากำกับดูแลคนที่ทำตามหน้าที่ทำตามกฎหมายคือเขา”
เมื่อถามถึงข้อสังเกตของพรรคภูมิใจไทยที่ว่า DSI อาจจับนายณฐพรเป็นตัวประกันเพื่อเล่นงานพรรคภูมิใจไทย นายชูศักดิ์กล่าวว่า “ความคิดเหล่านั้นเป็นความคิดที่คิดไปได้ว่าเป็นอย่างไร เพราะมันเป็นการเมือง หมายความว่ามันมีคดีก็คิดไปได้ ส่วนจะเป็นแบบนั้นจริงหรือไม่ มันก็ต้องใช้เหตุใช้ผล”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การที่นายชูศักดิ์เข้ามากำกับดูแล DSI เหมือนทำงานเชิงบุ๋นมากกว่าบู๊ ต่างจากรัฐมนตรีคนก่อน มีความกังวลหรือไม่ นายชูศักดิ์หัวเราะก่อนตอบว่า “จะให้ไปบู๊อย่างไร เพราะเราไม่มีอำนาจหน้าที่ไปทำนู่น ทำนี่ ตนยืนอยู่แบบนี้ว่าทำตามกฎหมาย ทำตามหลักฐานข้อบังคับที่มี ซึ่งที่เป็นปัญหากัน เพราะว่าเราไม่ได้ทำตามครรลองของกฎหมาย อย่างไรก็ตามทุกเรื่องต้องมีการรายงานมาที่ตน”
นายชูศักดิ์ระบุว่า หลังจากการพบอธิบดี DSI ครั้งแรก ได้มีการรายงานปัญหาในการทำงานและความคืบหน้าของแต่ละคดี ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับการดูกฎหมายให้ถ่องแท้ และยืนยันว่าจะทำตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เมื่อถามว่าจะให้คำมั่นได้หรือไม่ว่าคดีของนายณฐพรจะไม่หมดอายุความก่อน นายชูศักดิ์กล่าวว่า “ตนไม่ได้มีหน้าที่ไปจับ คนที่จะให้คำมั่นคือหน่วยงานที่เขามีหน้าที่”
สุดท้าย เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกหมายเรียกสอบผู้เกี่ยวข้องคดีฮั้ว สว. ล็อตที่ 4 จำนวน 16 คน ซึ่งมีชื่อพ่อตาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม นายชูศักดิ์กล่าวว่า “อย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่าเมื่อเดินมาแบบนี้แล้วก็ต้องดูให้ดี ดูว่ากฎหมายว่าอย่างไร เดินไปตามทางที่มันปลอดภัยที่สุด”
