‘พิพัฒน์’ ฟาด ‘บอร์ดฝ่ายลูกจ้าง’ ทีมประกันสังคมก้าวหน้า ปม ‘ปฏิทิน’ ชี้ ประชาพิจารณ์ คนอยากได้ยังมีอยู่ ถามกลับ ไหนบอกเป็นประชาธิปไตย หรือวนสู่อีหรอบเผด็จการ มองทางออกแบบยุติธรรม ต้องคุยกันในบอร์ด เสนอเป็นวาระแล้วลงมติ ลั่น ”หากแพ้แล้วอย่าโวย หากชนะก็เลิกทำ“
วันที่ 29 พ.ค. ที่ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ มีการประชุมคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) โดยการประชุมบอร์ดใหญ่ครั้งนี้ ฝั่งบอร์ดผู้ประกันตนโดยทีมประกันสังคมก้าวหน้า ได้ยื่นหนังสือให้ยกเลิกการผลิตปฏิทินประกันสังคมประจำปี 2569 ซึ่งได้ยื่นให้เสนอเป็นวาระพิจารณาในการประชุมบอร์ดครั้งหน้า วันที่ 17 มิถุนายน 2568 หรือโดยเร็วที่สุด
ประเด็นนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินหน้าเรื่องนี้ว่า เป็นหน้าที่ของเลขาธิการประกันสังคม ไปเจรจากับทางบอร์ด ว่าในเมื่อปฏิทินยังมีคนต้องการ ตกลงบอร์ดจะว่าอย่างไร โดยเฉพาะบอร์ดของชุดของคณะก้าวหน้า ว่ามีความเห็นอย่างไร และบอร์ดนายจ้างมีความคิดเห็นอย่างไร ซึ่งยังมีเวลา ตนอยากให้ทางเลขาฯ ประกันสังคม นำเรื่องนี้ไปพิจารณาในบอร์ดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อไม่ให้เป็นการปิดปากใคร และไม่ใช่ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามทิศทางที่เขากำหนดไปแล้ว ไม่ใช่ว่ารัฐมนตรีพูดแล้วทุกอย่างต้องเป็นอย่างที่รัฐมนตรีพูด เพราะตนเองก็ไม่มีสิทธิ์และไม่มีเสียงในบอร์ด ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าประชุม หรือนั่งในบอร์ดด้วยซ้ำ ถ้าเอาไปหารือในบอร์ด โดยเฉพาะบอร์ดที่ฝ่ายลูกจ้างคณะก้าวหน้าว่ามีความเห็นอย่างไร
ส่วนกรณีทีมประกันสังคมก้าวหน้า เสนอวาระจะมีการให้ยกเลิกการผลิตปฏิทินปี 2569 นายพิพัฒน์ถามกลับว่า “วันนี้ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบอะไร? ในเมื่อเป็นประชาธิปไตย คุณทำประชาพิจารณ์มา 62% บอกว่าไม่เอา แต่อีก 38% บอกว่าอยากได้ แล้วจะเป็นยังไงประชาธิปไตยจะอยู่ตรงไหน?”
“พวกคุณคณะก้าวหน้า บอก เขาเป็นประชาธิปไตย เขาไม่ใช่เผด็จการ แต่นี่คุณกำลังเข้าสู่อีหรอบคำว่าเผด็จการหรือเปล่า คุณจะเอาเสียงส่วนใหญ่ ก็คือเผด็จการ มาบังคับเสียงส่วนน้อย” ซึ่งอันนี้ตนพูดในฐานะคนนอก ที่ไม่ได้นั่งอยู่ในบอร์ด พวกคุณอยู่ในระบอบประชาธิปไตยหรือเปล่า ตนเองขอถามกลับไปทางนู้น
รมว.แรงงาน ยังกล่าวอีกว่า พวกคุณทำประชาพิจารณ์เพื่ออะไร เพื่อสะท้อนถึงผลที่จะออกมาใช่ไหม ว่าคนที่ที่ยังอยากได้มีกี่เปอร์เซ็นต์ , คนที่ไม่อยากได้แล้วมีกี่เปอร์เซ็นต์ ถ้าคนยังมีความอยากได้อยู่ คุณก็ต้องมาคุยกัน แต่ไม่ใช่บอกว่า “เห้ย! ฉันเป็นใหญ่ คุณไม่ได้ใหญ่เพียงฝ่ายเดียว คุณเป็นเพียงคณะกรรมการส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง
นายพิพัฒน์กล่าวต่อว่า ยังมีกรรมการฝ่ายภาครัฐ ยังมีกรรมการฝ่ายนายจ้าง “เสียงส่วนน้อยวันนี้ คุณกำลังบังคับเสียงส่วนใหญ่อยู่ใช่หรือไม่ ซึ่งเสียงส่วนน้อยในที่นี้ หมายถึงคุณเป็นคณะกรรมการอยู่ในบอร์ดของประกันสังคม และถ้าหากเสียงส่วนใหญ่ในบอร์ด โหวตว่าเอา (ปฏทิน) ล่ะ คุณจะยอมรับหรือเปล่า กับการที่คุณกำลังบังคับว่าเสียงส่วนน้อยไม่มีสิทธิ์ เพราะพวกคุณทำประชาพิจารณ์มาแล้ว ผมก็จะย้อนกลับพวกคุณแบบนี้แหละ“
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า คนเราเป็นประชาธิปไตยมันต้องคุยกัน ไม่ใช่เอาเสียงส่วนใหญ่มาข่มเสียงส่วนน้อย ตนก็จะบอกว่า ถ้าอย่างนั้น ตนจะไปล็อบบี้บอร์ดนะ บอร์ดที่ไม่ใช่พวกคุณ แล้วหากบอร์ดมีมติว่าให้ทำต่อ แล้วพวกคุณจะว่ายังไง พวกคุณก็จะออกมาบอกอีกว่า เอาเสียงส่วนใหญ่มากดดันเสียงส่วนน้อย ตอนนี้คุณกำลังเอาเสียงประชาพิจารณ์ส่วนใหญ่ มากดดันกับ 30% ที่ต้องการ ซึ่งเป็นเสียงส่วนน้อย
สำหรับแนวทาง ตนมองว่า ควรจะไปคุยกันในบอร์ด การอนุมัติโดยบอร์ด คุณก็ต้องไปคุยกันในบอร์ด ถ้าเป็นเลขาฯประกันสังคม ตนเองก็ให้บอร์ดตัดสินใจ หากบอร์ดบอกว่าให้ทำต่อ นั่นคือประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นอย่าบอกว่ากี่เปอร์เซ็นต์ ที่เป็นเสียงส่วนมาก-เสียงส่วนน้อย
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ประกันสังคม ไม่ได้ออกมาตอบโต้ใครคนใดคนหนึ่ง ตนเองคนเดียวนี่แหละที่ออกมาพูด เขาเกลียดบ้างรักบ้างก็ว่าไป แต่คือข้อเท็จจริงที่ตนพยายามจะสื่อ
”พวกคุณอยู่ในบอร์ด เอาไหม เดี๋ยวเอาเข้าบอร์ด เป็นวาระ แล้วโหวตในบอร์ดเลย ถ้าคุณแพ้อย่าโวย ถ้าคุณชนะเลิกทำดีไหม อันนี้แฟร์ๆ นะ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ไม่ต้องมาทะเลาะกันผ่านสื่อ คนบริโภคสื่อก็คงบอกว่า รำคาญชิบเป๋งเลย แค่ปฏิทินแค่นี้ทะเลาะมาครึ่งปียังไม่จบ ทางที่ดีที่สุดคือเอาเข้าบอร์ด และให้บอร์ดโหวตออกมา“
ขณะที่ นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำปฏิทินประกันสังคมว่า เบื้องต้นต้องน้อมรับนโยบายจากรัฐมนตรี อย่างในช่วงเช้าที่มีการประชุมบอร์ดใหญ่ ก็มีการยื่นวาระนี้มา จากนี้ต้องมีการนำเข้าบอร์ดอีกครั้งวันที่ 17 มิ.ย.2568 เพื่อให้จบประเด็นเรื่องการทำปฏิทิน ที่เราคุยเรื่องนี้กันมาอย่างยาวนานและสื่อจะได้ไปเล่นเรื่องอื่นบ้าง
ส่วนการประชุมบอร์ดครั้งหน้า เราก็ต้องดูว่าบอร์ดจะมีความเห็นอย่างไร แต่หากไม่สามารถพูดคุยกันได้ ก็ต้องมีการโหวต เพื่อจะได้ชัดเจนว่าสรุปแล้วจะทำอย่างไร พร้อมยืนยันว่าเราฟังเสียงทุกส่วน ซึ่งเสียงที่ให้ทำต่อก็มีเยอะ แต่คนเข้าไม่ถึงการทำแบบสอบถามก็มี เช่น ผู้ประกันตน ม.39 และ ม.40 ก็ไม่ได้เข้ามาตอบแบบสอบถามก็มีอีกเยอะ ก่อนย้ำว่า เรารับฟังทุกส่วน รวมทั้งผู้ที่ไม่เห็นด้วยในการทำปฏิทินต่อ
เมื่อถามว่า สุดท้ายแล้วมีมติให้ทำปฏิทินต่อจะผลิตจำนวนเท่าเดิม หรือลดปริมาณลงหรือไม่ เลขาธิการ สปส. ระบุว่า ต้องดูรายละเอียดในที่ประชุม ว่าจะผลิต 100% หรืออย่างไร
นางมารศรี กล่าวว่า หลังจบประเด็นนี้ ตนและสื่อมวลชน จะได้ไปทำประเด็นอื่นต่อไปในการดูแลผู้ประกันตน อีกทั้งตนก็เห็นว่าสื่ออยากจะมูฟออนจากประเด็นนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในการประชุมบอร์ดครั้งต่อไป
เมื่อถามถึงประเด็นที่บอร์ดฝ่ายผู้ประกันตน จี้ให้เปิดเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างแบบโปร่งใสนั้น