“เอกนัฏ” ไม่หวั่นภาพ สส.รวมไทยสร้างชาติร่วมวงกินข้าว ยันพรรคมีเอกภาพ ชี้เป็นเรื่องปกติการเมือง อย่าผูกติดจนเกินไป
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.68 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แสดงความเห็นถึงกรณีภาพ ส.ส. พรรค รทสช. บางส่วน นำโดย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรองหัวหน้าพรรคฯ ร่วมรับประทานอาหาร ว่าเป็นเรื่องปกติทางการเมือง และไม่ควรถูกนำไปปลุกปั่นให้เป็นประเด็นทางการเมือง การสังสรรค์หรือรับประทานอาหารร่วมกันของนักการเมืองเป็นเรื่องปกติในแวดวงที่เคร่งเครียดเช่นการเมือง และแม้จะมีการนินทากันบ้างก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เมื่อภาพปรากฏสู่สาธารณะก็มักถูกตีความให้มีนัยยะทางการเมือง ซึ่ง ส.ส. ที่อยู่ในภาพ อาทิ นายธนกร วังบุญคงชนะ, นายศาสตรา ศรีปาน และนายจิรวุฒิ สิงโตทอง ก็ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าไม่มีนัยยะทางการเมืองใดๆ
เมื่อถูกถามถึงมุมมองต่อการปรากฏภาพดังกล่าว นายเอกนัฏ ยืนยันว่า ตนไม่ใส่ใจและมองว่าเป็นเรื่องปกติที่ “ไม่ควรหมกมุ่น” เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่มีประโยชน์ต่อประชาชน และจะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของพรรคอย่างแน่นอน
ส่วนประเด็นที่ว่าการปล่อยภาพเช่นนี้จะทำให้พรรค รทสช. ดูเหมือนพรรคแตกหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าว่ว่า เชื่อมั่นในวิจารณญาณของประชาชน ที่จะสามารถประเมินสถานการณ์ได้ว่าอะไรเป็นอะไร พร้อมทั้งชี้แจงว่าภาพที่ออกมามี ส.ส. เพียง 15 คน แต่กลับถูกขยายเป็น 23 คนในบางสื่อ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการปรุงแต่งข้อมูลเพื่อหวังผลทางการเมือง
“ใน 15 คนนั้นออกมาปฏิเสธทั้งหมด ถ้าอีกนิดสงสัยต้องนัดรวมตัวแถลงข่าวปฏิเสธกันหมดเลยมั้ง ว่าทานข้าวกันเฉยๆ อย่าไปวิตกกังวลอะไร เดี๋ยวสองสามวันนี้ก็คงมีข่าวแบบนี้อีก กินข้าวจิบกาแฟเป็นแฟชั่นไปแล้ว เดี๋ยวตนก็คงมีบ้างเป็นเรื่องปกติ” นายเอกนัฏกล่าวติดตลก
นายเอกนัฏ ยอมรับว่า การบริหารพรรคการเมืองและการเป็นรัฐมนตรีในปัจจุบันมีภาระงานหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเกิดเหตุการณ์ตึกถล่ม อาจทำให้ขาดการสื่อสารกับสมาชิกพรรคไปบ้าง แต่ตนพร้อมรับฟังทุกปัญหาและข้อเสนอแนะ และจะปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น อะไรที่พรรคกับผู้บริหารขาดตกบกพร่องไปก็จะปรับเปลี่ยน
เมื่อถามถึงบทบาทของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคฯ ที่ควรจะชี้แจงสถานการณ์บ้างหรือไม่ นายเอกนัฏระบุว่า ตนเป็นผู้สื่อสารอยู่แล้ว และแต่ละคนมีสไตล์การทำงานที่แตกต่างกัน พร้อมแซวตัวเองว่า “ตนไม่ใช่สุภาพบุรุษ แต่ตรงไปตรงมา” ในการให้สัมภาษณ์สื่อ ขณะที่หัวหน้าพรรคเป็นคนสู้งานแต่ไม่ค่อยพูด
ในประเด็นกระแสข่าวที่พรรค รทสช. อาจถูกบีบให้ไปเป็นฝ่ายค้าน หากนายพีระพันธุ์ไม่ลาออกจากหัวหน้าพรรค นายเอกนัฏปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวว่า “คิดกันไปไกลแล้ว พรรคใครพรรคมัน ไม่เห็นมีบีบอะไร” พร้อมยกตัวอย่างการได้พบปะพูดคุยกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (3 มิ.ย.) ซึ่งเป็นไปอย่างปกติ และย้ำว่าผู้มีอำนาจตัดสินใจคือ นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว เมื่อถามย้ำถึงความพร้อมของนายพีระพันธุ์ นายเอกนัฏตอบสั้นๆ หนักแน่นว่า “ไหว”
เกี่ยวกับท่าทีของนายสุชาติ ชมกลิ่น ที่ดูเหมือนจะมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง นายเอกนัฏกล่าวว่าตนไม่มีอะไรติดใจและเข้าใจการเมืองดีว่ามีกติกามารยาท พร้อมเปรียบเทียบการต่อสู้ทางการเมืองเหมือนการขึ้นชกบนเวทีที่เมื่อหมดยกก็จบ อย่าได้โกรธกัน ขอให้ทิ้งความรู้สึกที่ดีต่อกันไว้
เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันว่า ใครจะไปจิบกาแฟ ดื่มไวน์ กินไอติม ก็เชิญไม่ว่ากัน แค่อยู่ในกติกาไม่ว่ากัน แต่ยอมรับว่าทุกพรรคการเมืองย่อมมีปัญหา เพราะการทำงานกับมนุษย์ย่อมมีเรื่องส่วนตัวและส่วนรวม แต่สิ่งที่สำคัญคือการรักษาภาพรวมของพรรค และไม่ว่าสถานะใด พรรคก็ต้องสามารถทำงานได้
เมื่อถูกถามถึงความจำเป็นในการสร้างภาพลักษณ์ด้วยการรับประทานอาหารออกสื่อ นายเอกนัฏ กล่าวว่า “เอาอย่างนั้นเลยเหรอ ปกติก็ทานกันอยู่แล้ว ทำไมต้องให้ตนส่งรูปให้ด้วย บางทีก็ต้องมีเวลาส่วนตัวกันบ้าง หรือเวลาคุยเรื่องสำคัญๆ เขาคงไม่ส่งรูปให้หรอกใช่หรือไม่” พร้อมปฏิเสธที่จะตอบแทนว่านายสุชาติมีความต้องการเป็นรัฐมนตรีว่าการหรือไม่ โดยกล่าวว่า “ไปถามเขาเอา ตนไม่ตอบแทนเขา”
สำหรับข้อบังคับพรรคใหม่ที่ระบุห้ามสมาชิกฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค นายเอกนัฏชี้แจงว่าข้อบังคับพรรคมีการปรับปรุงทุกปีในการประชุมใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกมากที่สุด ซึ่งมีการแก้ไขมานานแล้ว ไม่ได้แก้เพื่อไปทำอะไรกับใครเฉพาะเจาะจง ทุกคนต้องทำตามข้อบังคับของพรรค
ก่อนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน นายเอกนัฏได้พบกับนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ที่หน้าตึกบัญชาการ 1 โดยนางนฤมลยังคงใช้ไม้เท้าค้ำยัน จากอาการบาดเจ็บ สื่อมวลชนได้ขอให้ทั้งคู่ยืนคู่กันเพื่อถ่ายภาพ ซึ่งนางนฤมลได้หันไปแซวนายเอกนัฏอย่างอารมณ์ดีว่า “ให้ยืมไม้ค้ำยันมั้ย” เมื่อนักข่าวถามเหตุผล นางนฤมลตอบว่า “แซวเล่น” พร้อมหัวเราะ ก่อนที่นายเอกนัฏจะยิ้มแล้วตอบว่า “จะให้ผมไปตีใครล่ะครับ”