วันพุธ, มิถุนายน 11, 2025
หน้าแรกHighlight“เอกนัฏ”แฉพิรุธเอกสาร“21 สส.รทสช.” ไล่จี้หา“คนอยู่เบื้องหลัง”ทำให้แตกแยก
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เอกนัฏ”แฉพิรุธเอกสาร“21 สส.รทสช.” ไล่จี้หา“คนอยู่เบื้องหลัง”ทำให้แตกแยก

“เอกนัฏ” ชี้เอกสารลับรายชื่อ 21 ส.ส. ร้องปรับ ครม. เต็มไปด้วยพิรุธ ลายเซ็นไม่ตรง-เนื้อหาบั่นทอนพรรคร่วมเอง เชื่อมีคนเสียผลประโยชน์อยู่เบื้องหลัง เตือนหากบิดเบือน-ฝักใฝ่พรรคอื่น เสี่ยงขาดสมาชิกภาพ พร้อมย้ำพรรคยังยึดมั่นพันธสัญญาร่วมรัฐบาล รอความชัดเจนจากนายกฯ เรื่องปรับ ครม.

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่เอกสารรายชื่อ 21 สส.ของพรรค ที่เสนอปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตนและนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค ต่างรับรู้ถึงภารกิจและความรับผิดชอบที่ต้องเผชิญในกระทรวงของตนอย่างเต็มที่ จึงขอเดินหน้าทำงานต่ออย่างมุ่งมั่น ทั้งนี้ ในส่วนของเอกสารที่ปรากฏ ตนตั้งข้อสังเกตว่า ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า เป็นเอกสารจริงหรือไม่ และไม่ทราบว่า มีการยื่นถึงนายกรัฐมนตรีจริงหรือเปล่า เนื่องจากพบข้อพิรุธหลายประการ โดยเฉพาะหลังจากข่าวเผยแพร่ สส.หลายคนที่มีชื่อในเอกสาร ได้ออกมาปฏิเสธอย่างชัดเจน อาทิ สส.จากจังหวัดชุมพร 3 คน ซึ่งระบุว่า ได้รับแรงกดดันจากประชาชนในพื้นที่ จึงจำเป็นต้องออกมาชี้แจง ทั้งยังพบว่า มีลายเซ็นในเอกสารที่ไม่ตรงกับลายเซ็นในเอกสารราชการ

นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า ยิ่งน่าสงสัยเมื่อพบว่าผู้ลงชื่อในเอกสารระบุว่ารัฐมนตรีของพรรค “ไม่มีความรู้ ไม่มีความสามารถ และขาดจริยธรรม” แต่ชื่อผู้ลงนามกลับเป็นนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีจากพรรคเดียวกัน จึงเกิดข้อสงสัยว่า เป็นไปได้อย่างไร ที่บุคคลจะลงนามโจมตีตนเอง หากนายสุชาติเห็นเอกสารฉบับนี้จริง ก็ต้องชี้แจงว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่

เลขาธิการพรรค รทสช. ยังระบุด้วยว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีเพจหนึ่งนำภาพลายเซ็น สส. มาเผยแพร่ ซึ่งเมื่อตรวจสอบ กลับพบว่าไม่ตรงกับที่เคยเห็นสมัยสมัครเป็นสมาชิกพรรค โดยบางลายเซ็น เป็นเพียงตัวย่อ หรือไม่ครบถ้วน ซึ่งผิดวิสัยของเอกสารราชการ และสงสัยว่า อาจมีการนำลายเซ็นเก่ามาตัดแปะในเอกสารนี้

“เรื่องภายในพรรค ควรจัดการกันเอง ไม่ควรโยงไปถึงเสถียรภาพของรัฐบาล ผมได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคแล้วเรียบร้อย” นายเอกนัฏกล่าว

เมื่อถามถึงแนวทางการสอบสวนภายในพรรค นายเอกนัฏ ระบุว่า ขณะนี้ได้เปิดโอกาสให้ผู้มีชื่อในเอกสาร ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ หากไม่ได้มีเจตนากดดันนายกรัฐมนตรี หรือใส่ร้ายรัฐมนตรีในพรรค ควรรีบออกมาชี้แจง โดยพรรคมีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง และมีการสอบถามมาตั้งแต่ปรากฏภาพการรับประทานอาหารร่วมกันในอดีตจนถึงกรณีล่าสุด

“ผมอยากให้สื่อช่วยกันตรวจสอบว่า ใครอยู่เบื้องหลังเอกสารนี้ มันเหมือนตอนที่ผมตรวจคุณภาพเหล็ก ถ้าผิดแค่ตัวเดียว ก็เท่ากับทั้งล็อตใช้ไม่ได้แล้ว ขณะนี้มีผู้ที่มีชื่อใน 21 ราย ออกมาปฏิเสธไม่ต่ำกว่า 5 คนแล้ว มันชัดว่าเป็นเอกสารเถื่อน” นายเอกนัฏ กล่าวพร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ตนอาจตกเป็นเป้าหมาย เพราะไปแตะต้องผลประโยชน์ของบางกลุ่ม มีการตั้ง “ค่าหัว” และ “ลงขัน” กันเป็นเงินจำนวนมาก เพื่อพยายามดึงตนออกจากตำแหน่ง

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่ามี สส.ในพรรคต้องการให้ขับตนออก นายเอกนัฏ กล่าวว่า ยังไม่มีใครพูดเรื่องนี้ แต่หากใครไม่เห็นด้วยกับอุดมการณ์พรรค ก็สามารถลาออกได้ แต่ตราบใดยังเป็นสมาชิก ต้องเคารพข้อบังคับพรรค เพราะหากมีการกระทำผิดร้ายแรง เช่น การฝักใฝ่พรรคอื่น การบิดเบือนเอกสาร หรือปลุกปั่นความขัดแย้งภายใน อาจถึงขั้นพ้นสมาชิกภาพได้

ส่วนประเด็นการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง นายเอกนัฏ ระบุว่า ให้เป็นหน้าที่ของสื่อในการไปสอบถาม สส.ทั้ง 21 คน ว่าได้ลงชื่อจริงหรือไม่ แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อพูดคุยกับนายสุชาติได้

เมื่อถามถึงการเสนอชื่อปรับ ครม. ในนามพรรค นายเอกนัฏ กล่าวว่า การปรับ ครม. เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคยังคงยึดพันธะสัญญาที่มีร่วมกันตั้งแต่ต้น และเรื่องนี้ต้องผ่านกลไกของกรรมการบริหารพรรค

“นายกฯให้กำลังใจพวกเราเสมอ ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องหนังสือถึงนายกฯ แต่ท่านให้การสนับสนุนการทำงานของพรรคอย่างเต็มที่” นายเอกนัฏกล่าว

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงภาพรับประทานอาหารร่วมกันกับ สส. และเอกสารที่หลุดตามมานั้น นายเอกนัฏ ยืนยันว่า เตรียมใจไว้แล้ว และไม่หวั่นไหว เชื่อว่ามีผู้ไม่พอใจจากการเสียผลประโยชน์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้

“แทงจากข้างนอก ยังไม่เจ็บเท่ากับแทงจากข้างใน ป่วนข้างนอกไม่พอ ก็ต้องป่วนใน ผมเชื่อว่าคนที่เสียผลประโยชน์กำลังสร้างเรื่องให้แตกแยก” เขากล่าว

นายเอกนัฏ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนและกรรมการบริหารพรรคมีการสื่อสารกับ สส.อย่างใกล้ชิด แต่ก็ยอมรับว่า ข่าวที่ออกมาในช่วงเวลานี้มีความผิดปกติ และเชื่อว่าตนกับนายพีระพันธุ์อาจเผลอเหยียบเท้าบางคนเข้าโดยไม่รู้ตัว จึงอยากให้สื่อช่วยกันติดตามขยายผลว่าบุคคลใดอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวในครั้งนี้

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img