“พาณิชย์” ปลื้มสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรไทย ครองแชมป์ในตลาดโลก

“พูนพงษ์” เผยสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรสำคัญของไทยปี 67 มูลค่า52,185 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 5.9% จากปีก่อนหน้า ยังครองแชมป์ในตลาดโลก ตอกย้ำไทยเป็นครัวของโลก

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรไทยปี 2567 มีมูลค่าการส่งออก 52,185 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,835,800 ล้านบาท ขยายตัว 5.9% จากปีก่อนหน้า แบ่งเป็นสินค้าเกษตร 28,827.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,014,588 ล้านบาท ขยายตัว 7.5% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร 23,357.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 821,212 ล้านบาท ขยายตัว 4.1% ซึ่งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรของไทยหลายรายการ มีมูลค่าการส่งออกสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ของโลก ตอกย้ำความพร้อมของไทยในการเป็นครัวของโลก โดยมีสินค้าที่ไทยส่งออกสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 เรียงตามส่วนแบ่งตลาดสูงสุด ดังนี้

สตาร์ชทำจากมันสำปะหลัง (HS Code 110814) ไทยมีมูลค่าการส่งออกไปตลาดโลก 1,611.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 8.86 จากปีก่อนหน้า โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาด 57% ของมูลค่าการส่งออกสตาร์ชฯ ของโลก หรือประมาณ 2,829.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่มูลค่าการส่งออกสตาร์ชฯ ของโลก หดตัว 2.59% แสดงถึงศักยภาพของไทยการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้

ทุเรียน (HS Code 081060) ไทยมีมูลค่าการส่งออกไปตลาดโลก 3,817.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 5.87% จากปีก่อนหน้า โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาด 54.2% ของมูลค่าการส่งออกทุเรียนของโลก (7,043.2 ล้านเหรียญสหรัฐ) แต่พบว่ามูลค่าการส่งออกทุเรียนของโลก ขยายตัว 7.27% ชี้ให้เห็นสัญญาณว่าไทยต้องเร่งปรับตัวให้แข่งขันได้

มะพร้าวสดหรือแห้ง (HS Code 080119) ไทยมีมูลค่าการส่งออกไปตลาดโลก 226.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 23.68% จากปีก่อนหน้า โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาด 37.2% ของมูลค่าการส่งออกมะพร้าวฯ ของโลก (607.6 ล้านเหรียญสหรัฐ) แต่พบว่ามูลค่าการส่งออกมะพร้าวฯ ของโลก ขยายตัว 12.19% ชี้ให้เห็นสัญญาณว่าไทยต้องเร่งปรับตัวให้แข่งขันได้

ยางพารา (HS code 4001) ไทยมีมูลค่าการส่งออกไปตลาดโลก 4,971.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 37.26 จากปีก่อนหน้า โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 31.3 ของมูลค่าการส่งออกยางพารารวมของโลก (15,885.2 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่มูลค่าการส่งออกยางพาราของโลก ขยายตัวร้อยละ 26.13 ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าไทย

สับปะรดกระป๋อง (HS Code 200820) ไทยมีมูลค่าการส่งออก 325.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวขึ้น 7.14% จากปีก่อนหน้า โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาด 30.8% ของมูลค่าการส่งออกสับปะรดกระป๋องรวมของโลก (1,057.3 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่มูลค่าการส่งออกสับปะรดกระป๋องของโลก ขยายตัว 5.86% ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าไทย

ไก่แปรรูป (HS Code 160232) ไทยมีมูลค่าการส่งออก 2,938.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 8.12% จากปีก่อนหน้า โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาด 25.6 %ของมูลค่าการส่งออกไก่แปรรูปรวมของโลก (11,456.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่มูลค่าการส่งออกไก่แปรรูปของโลก ขยายตัว 6.07% ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าไทย

ปลาทูน่ากระป๋อง (HS Code 160414) ไทยมีมูลค่าการส่งออก 2,487.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 20.15 จากปีก่อนหน้า โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาด 25.5% ของมูลค่าการส่งออกปลาทูน่ากระป๋องรวมของโลก (9,757.1 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่มูลค่าการส่งออกปลาทูน่ากระป๋องของโลก ขยายตัว 15.04% ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าไทย

สินค้ามันสำปะหลัง เดกซ์ทริน และโมดิไฟด์สตาร์ชอื่น ๆ (HS Code 350510) ไทยมีมูลค่าการส่งออก 944.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 2.32% จากปีก่อนหน้า โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาด 20.9% ของมูลค่าการส่งออกสินค้ามันสำปะหลังฯ รวมของโลก (4,512.7 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้า มันสำปะหลังฯ ของโลก หดตัว 3.9% แสดงถึงศักยภาพของไทยการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้

กุ้งและเครย์แห้ง เค็ม หรือแช่ในน้ำเกลือ และรมควัน (HS Code 030695) ไทยมีมูลค่าการส่งออก 49.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 18.42 จากปีก่อนหน้า โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 19.7 ของมูลค่าการส่งออกกุ้งและเครย์แห้งฯ รวมของโลก (251.5 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่มูลค่าการส่งออกกุ้งและเครย์แห้งฯ ของโลก หดตัวร้อยละ 3.08 แสดงถึงศักยภาพของไทยการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้

กุ้งและเครย์สด หรือแช่เย็น (HS Code 030636) ไทยมีมูลค่าการส่งออก 90.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 3.11 จากปีก่อนหน้า โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาด 17.7% ของมูลค่าการส่งออกกุ้งและเครย์สดฯ รวมของโลก (511.2 ล้านเหรียญสหรัฐ) แต่พบว่ามูลค่าการส่งออกกุ้งและเครย์สดฯ ของโลก หดตัว 1.45% ซึ่งเป็นการหดตัวในอัตราที่ต่ำกว่าไทย

นอกจากนี้ ยังมีสินค้าสำคัญที่ไทยเคยส่งออกได้เป็นอันดับที่ 1 ของโลกในปี 2566 แต่เริ่มสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในปี 2567 และหลุดจากอันดับที่ 1 ได้แก่

มะพร้าวทั้งกะลา (HS Code 080112) ไทยมีมูลค่าการส่งออก 92.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 38.94% จากปีก่อนหน้า โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาด 27.1% ของมูลค่าการส่งออกมะพร้าวฯ ของโลก (339.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) เป็นอันดับที่ 2 ของโลก (โดยอันดับที่ 1 ได้แก่ อินโดนีเซีย มีส่วนแบ่งตลาด 33.4%) ขณะที่ในปี 2566 ไทยมีส่วนแบ่งตลาด 44.8% ของมูลค่าการส่งออกมะพร้าวฯ ของโลก

หัวมันสำปะหลังและมันสำปะหลังอัดเม็ด (HS Code 071410) ไทยมีมูลค่าการส่งออก 480 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 57.65% จากปีก่อนหน้า โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาด 24.9 % ของมูลค่าการส่งออกหัวมันสำปะหลังฯ ของโลก (1,928.7 ล้านเหรียญสหรัฐ) เป็นอันดับที่ 2 ของโลก (โดยอันดับที่ 1 ได้แก่ กัมพูชา มีส่วนแบ่งตลาด 35.8%) ขณะที่ในปี 2566 ไทยมีส่วนแบ่งตลาด 41.4% ของมูลค่าการส่งออกหัวมันสำปะหลังฯ ของโลก

แป้งมันสำปะหลัง (HS Code 110620) ไทยมีมูลค่าการส่งออก 25.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 14.48% จากปีก่อนหน้า โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาด 19.1% ของมูลค่าการส่งออกแป้งมันสำปะหลังของโลก (133.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) เป็นอันดับที่ 2 ของโลก (โดยอันดับที่ 1 ได้แก่ เปรู มีส่วนแบ่งตลาด 19.2%) ขณะที่ ในปี 2566 ไทยมีส่วนแบ่งตลาด 21.4% ของมูลค่าการส่งออกแป้งมันสำปะหลังของโลก

แม้ภาพรวมการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรของไทยในปี 2567 ยังคงเติบโต แต่จากข้อมูลเผยให้เห็นว่าสินค้าที่ไทยมีมูลค่าการส่งออกเป็นอันดับที่ 1 บางรายการกำลังเผชิญภาวะถดถอย มีมูลค่าการส่งออกหดตัว ได้แก่ ทุเรียน มะพร้าวสดหรือแห้ง และกุ้งเครย์สดฯ แม้ว่าไทยจะยังคงรักษาตำแหน่งผู้ส่งออกอันดับที่ 1 ของโลก แต่มีสัญญาณเตือนที่ทำให้ต้องเฝ้าระวังและหาแนวทางแก้ไข

“สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรเป็นสินค้าสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ อีกทั้งมูลค่าการส่งออกมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ดี แม้ว่าภาพรวมจะยังอยู่ในทิศทางที่ดี แต่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเร่งพัฒนาสินค้าเกษตรไทยเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโลก และป้องกันการสูญเสียรายได้ของประเทศในระยะยาว โดยเฉพาะการเร่งแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรที่มีผลผลิตลดลงมาก การยกระดับมาตรฐานสินค้าเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของไทย ตลอดจนการรักษาฐานการส่งออกเดิม และแสวงหาตลาดศักยภาพใหม่”