ธปท. ประกาศ 3 กลุ่มทุนผ่านเกณฑ์จัดตั้ง Virtual Bank เล็งเปิดบริการภายใน 1 ปี คาดเรียกผู้ให้บริการทั้งหมดหารือในรายละเอียดในช่วงต้นเดือน ก.ค.นี้
ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับใบอนุญาตในการจัดตั้ง ธนาคารไร้สาขา หรือ Virtual Bank มีทั้งหมด 3 ราย จากผู้ยื่นคำขอทั้งหมด 5 ราย หลังได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว ประกอบด้วย กลุ่มเอสซีบีเอกซ์ โดยเอสซีบีเอกซ์ (SCB) ที่จับมือกับพันธมิตรใหญ่ 2 ราย คือ WeBank ธนาคารดิจิทัลชั้นนำในจีน และ KakaoBank ธนาคารยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้
รายที่สองคือ กลุ่มธนาคารกรุงไทย ร่วมกับกลุ่มพันธมิตร ได้แก่ เอไอเอส และกลุ่ม พีทีที (PTT) ผ่านบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR รายที่ 3 มาจากกลุ่ม “เอซีเอ็ม โฮลดิ้ง” ซึ่งเป็นบริษัท ในกลุ่ม แอสเซนด์ มันนี่ ผู้ให้บริการอีวอลเล็ต ภายใต้ชื่อ “ทรูมันนี่” เป็นกลุ่มบริษัทใน “เครือเจริญโภคภัณฑ์” (ซีพี) จับมือ Ant International ซึ่งเป็นผู้นำในฟินเทคเป็นบริษัทลูกของอาลีบาบาจากจีน
โดยธปท.จะเรียกผู้ให้บริการทั้ง 3 ราย เข้ามาหารือก่อนในช่วงต้นก.ค.นี้ เพื่อพิจารณาถึงความพร้อมในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งหากรายใดมีความพร้อม และสามารถดำเนินธุรกิจได้ทันทีในสิ้นปีนี้ ธปท. ก็เชื่อว่าทำได้ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้ดำเนินธุรกิจ โดยเป้าหมายของการให้ไลเซนส์เวอร์ชวลแบงก์ เป้าหมายของธปท. เพื่อต้องการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน ทั้งUnder-served หรือ Unserved ทั้งผู้ประกอบการรายย่อย และเอสเอ็มอีขนาดเล็กที่ไม่เคยเข้าถึงสินเชื่อและบริการทางการเงิน
โดยเฉพาะ ความต้องการให้เวอร์ชวลแบงก์เข้ามาตอบโจทย์การเข้าถึงสินเชื่อของเอสเอ็มอี เพราะปัจจุบันพบว่าเอสเอ็มอีกว่า 50% ยังคงประสบปัญหาในการเข้าถึงสินเชื่อ ทำให้ต้องพึ่งพาเงินกู้นอกระบบ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงมากถึง 100-300%
ทั้งนี้พบว่า ครัวเรือนไทยยังมีปัญหาการออมไม่เพียงพอ โดยพบประมาณ 76% ของครัวเรือนไทยยังคงมีเงินออมฉุกเฉินไม่ถึง 6 เดือน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เปราะบางอย่างยิ่ง ดังนั้นธปท.หวังว่าเวอร์ชวลแบงก์จะเข้ามาตอบโจทย์ด้านการเข้าถึงบริการทางการเงิน และช่วยส่งเสริมให้เกิดวินัยทางการเงินการออมได้มากขึ้น
“สิ่งที่ธปท.ไม่อยากเห็น จากผู้ให้บริการ เวอร์ชวลแบงก์คือ การประกอบธุรกิจที่ไม่ยั่งยืนหรือมีความเสี่ยงสูง การแข่งขันไม่เหมาะสม หรือยิ่งเข้าไปซ้ำเติมหนี้ครัวเรือนหรือถูกใช้เป็นเครื่องมือเอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลหรือกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการต่างๆ ดังนั้น ในด้านการดูแล ธปท. จะมีการติดตามการดำเนินธุรกิจของเวอร์ชวลแบงก์ทั้ง 3 รายอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วง 3-5 ปีแรกในการดำเนินธุรกิจ “
ส่วนข้อกังวลที่ว่าการให้ใบอนุญาตกับ 3 ราย ซึ่งปัจจุบันถือเป็นกลุ่มทุนใหญ่อยู่แล้ว เหล่านี้เป็นการเอื้อให้กลุ่มทุนยิ่งใหญ่กว่าเดิม หรือครอบงำตลาดหรือไม่ ส่วนนี้ ธปท. ไม่ได้มีความกังวลเป็นพิเศษ เพราะธปท. มีกรอบการกำกับดูแลอยู่แล้ว และจะเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยในอนาคตธปท. มองว่ามีโอกาสที่จะเห็นการให้ไลเซนส์ เวอร์ชวลแบงก์เพิ่มเติมได้ ในระยะที่ 2 แต่ระยะนี้ธปท. ขอมุ่งเน้นไปที่การดูแลให้เวอร์ชวลแบงก์ทั้ง 3 รายมีความแข็งแรงและตอบโจทย์ประชาชนเฟสที่ 1 ก่อน