“พท.” เย้ยหยัน “รัฐบาลลุงตู่” 120 เปิดประเทศไม่ได้จริง เชื่อ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” คือฟางเส้นสุดท้าย ชี้วัดท่องเที่ยวไทยจะรอดหรือไม่รอด พร้อมไล่บี้ “นายกฯลุงตู่” หยุดเพิกเฉยละเลยชีวิตปชช.จากพิษโควิด แนะให้ดูตัวอย่างที่ฝรั่งเศส ปชช.ฟ้องรัฐบริหารผิดพลาดทำคนตาย
เมื่อวันที่ 3 ก.ค.64 นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ รองเลขาธิการคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ และประธานอนุกรรมการนโยบายด้านการท่องเที่ยว พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงแนวโน้มและโอกาสที่จะมีการเปิดประเทศใน 120 วันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เปิดโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เพื่อทดสอบความพร้อมที่จะนำไปสู่การเปิดประเทศในอีก 120 วัน แต่หลายฝ่ายกังวลว่า โครงการนี้เหมือนฟางเส้นสุดท้าย เป็นลมหายใจสุดท้ายที่จะเยียวยาภูเก็ต และธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดว่าจะไปในทิศทางใด
นายจักรพล กล่าวว่า ด้วยเงื่อนไขต่างๆ ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งใบรับรองแพทย์ กรมธรรม์ดูแลสุขภาพ หลักฐานการฉีดวัคซีน ที่พักอาศัยในภูเก็ตไม่น้อยกว่า 14 วัน และต้องตรวจหาเชื้อโควิดซ้ำ ด้วยเงื่อนไขเหล่านี้แสดงถึงความเข้มงวดที่ดี แต่อาจทำให้นักท่องเที่ยวไม่เดินทางมา ทั้งความมั่นใจในด้านความพร้อมในไทยเอง ขณะที่สถานการณ์โควิดในประเทศกำลังแย่ลง ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตพุ่งสูง บางสายการบินประกาศยกเลิกเที่ยวบิน ดังนั้นถ้าจะเดินหน้าอย่างมั่นใจ ต้องทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดการแพร่ระบาดโควิดเป็นวงกว้าง
“การเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ คือเทียนแห่งความหวังเล่มแรกของการท่องเที่ยว ที่จะกระจายเปิดไปยังจังหวัดใกล้เคียงและจังหวัดท่องเที่ยวหลัก อย่าง…เชียงใหม่ ในไตรมาสที่ 4 ถ้าภูเก็ตแซนด์บ็อก มีปัญหา นั่นหมายถึงการท่องเที่ยวไทยปีนี้อาจถึงทางตัน” นายจักรพล กล่าว
ขณะที่น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ประธานกรรมการเครือโรงพยาบาลธนบุรี ออกมาเปิดเผยการจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นาที่ยังไม่มีความคืบหน้า จนเกิดกระแสตีแผ่ความจริงในวงกว้าง สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาลล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ นอกจากจัดหาวัคซีนไม่เพียงพอ ยังเตะถ่วงเอกชนที่จะเข้ามาช่วยกระจายวัคซีนทางเลือก ที่ประชาชนสมัครใจจ่ายเงินด้วยตัวเอง เหตุใดภาครัฐที่ควรจะเป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชน กลับกลายเป็นอุปสรรคขัดขวางการหลุดพ้นจากวังวนโรคระบาดที่เกิดขึ้นยาวนานมาเกือบ 2 ปี จนขณะนี้คนไทยติดเชื้อโควิค-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผู้เสียชีวิตที่เกิดจากการติดเชื้อ รวมมากกว่า 2,000 คน และจากการฆ่าตัวตายอีกจำนวนมาก สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้สังคมตั้งคำถามว่ารัฐบาลโดย ศบค. กำลังก่ออาชญากรรมต่อชีวิตประชาชนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบในฐานะ ผอ.ศบค. หรือไม่
น.ส.อรุณี กล่าวว่า อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ศึกษากรณีตัวอย่างในต่างประเทศ โดยในปี 2542 ชาวฝรั่งเศสได้มีการฟ้องต่อศาลให้เอาผิดอดีตนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ข้อหาฆ่าคนตายและทำให้คนบาดเจ็บจากการรับโลหิตปนเชื้อเอชไอวี กว่า 300 คน แม้นายกรัฐมนตรีและพวกไม่มีเจตนา แต่เป็นเจ้าพนักงานรัฐที่ปล่อยปละละเลย ประมาทเลินเล่อ และล้มเหลวในการปฎิบัติหน้าที่ จนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แม้ในท้ายที่สุดจะมีการต่อสู้คดีจนหลุดพ้นจากข้อกล่าวหา แต่กรณีนี้ทำให้ทั่วโลกได้รู้ว่า ผู้นำประเทศที่บริหารราชการผิดพลาดจนทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ก็มีสิทธิที่จะถูกดำเนินคดีไม่แตกต่างจากคดีอุกฉกรรจ์ร้ายแรงและสมควรถูกประณามจากชาวโลกเช่นกัน