สธ.แจงตัวเลขส่งวัคซีนลงใต้มากกว่า 2 ล้านโดส โต้การป้องกันโควิดจะมานั่งรอวัคซีนอย่างเดียวไม่ได้ ชงอนุ กก. รับองสูตรไขว้แอสตร้าฯ บวกไฟเซอร์ ขณะที่‘’หมอสุภัทร’’เปิดแจงตัวเลขวัคซีนใสต๊อก
เมื่อวันที่ 6 ต.ค.64 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงเลยที่ว่ามีการส่งวัคซีนลงไปยังพื้นที่ภาคใต้น้อย เพราะตามแผน ศบค.ให้มีการจัดส่งไปทั้งสิ้น 1,495,400 โดส แต่เราส่งวัคซีนลงไปจริงๆ ถึง 2,085,668 โดส มากกว่าแผนที่กำหนดกว่า 5 แสนโดส
“ถ้าบอกว่าส่งไปน้อยคงไม่ถูกต้อง แต่ถ้าบอกว่าต้องได้ฉีดทุกคนตามแผนก็คือสิ้นปี รวมถึงอัตราการฉีดจริงตอนนี้ก็ถือว่าเกินเป้าด้วย โดยฉีดได้ 2,256,022 โดส ซึ่งส่วนที่เกินมานั้นเพราะเขามีการฉีดซิโนฟาร์มด้วยถือว่ามากกว่าหลายจังหวัด ส่งให้เกินเป้า ไม่ได้ขาด ยืนยันตัวเลขชัดเจน” นพ.โอภาส กล่าว
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการจัดการระบาดจะต้องใช้หลายมาตรการควบคู่กัน อย่างที่ทราบว่าวัคซีนต้องฉีดครบ 2 เข็ม และใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์จึงจะมีภูมิคุ้นกัน ถ้ามัวแต่รอวัคซีนอย่างเดียวคงไม่ใช่ แต่มาตรการเดิมต้องทำ คือมาตรการส่วนบุคคล มาตรการทางสังคม เว้นระย่าง และการสอบสวนควบคุมโรค โดยเฉพาะคลัสเตอร์ใหญ่ๆ แต่เท่าที่ดูสถานการณ์ในภาคใต้ตอนนี้จะเป็นการระบาดในชุมชนคล้ายๆ กับการระบาดในกทม. ดังนั้นนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขจึงมีการส่งทีมเคลื่อนที่เร็ว CCRT ลงไปสอบสวน ควบคุม ป้องกันโรค ให้มีการฉีดวัคซีน ตรวจ ATK ให้ทำเหมือนกทม. ซึ่งเชื่อว่าเขามีประสบการณ์แล้ว เพราะก่อนหน้านี้บุคลากรทางภาคใต้เองก็เป็นหนึ่งในทีมที่ลงมาช่วยคุมการระบาดในกทม. ตอนนี้ก็ต้องส่งทีมลงไปช่วยภาคใต้
เมื่อถามว่าสูตรการฉีดวัคซีนไขว้เข็มที่ 1 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า และเข็ม 2 เป็นไฟเซอร์ จะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงใด นพ.โอภาส กล่าว เป็นสูตที่เราวางเอาไว้อยู่ในแผนของกระทรวงฯ โดยหลักการคือสามารถใช้ได้ ทั้งนี้ในวันที่ 7 ต.ค. จะมีการนำเข้าหารือในที่ประชุมอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เพื่อให้การรับรองต่อไป
ขณะที่นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.รพ.จะนะ จ.สงขลา โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง วัคซีนอำเภอจะนะ ภาพสะท้อนวัคซีนชายแดนใต้ โดยระบุว่า อำเภอจะนะมีประชากรตามกลุ่มเป้าหมายที่จะได้ได้รับวัคซีนคือมีอายุ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 69,608 คน ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 แล้วราว 30,000 คน(42%) ในจำนวนนี้ครบสองเข็มแล้ว ราว 19,000 คน (27%) ซึ่งยังไม่มากพอที่จะให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ คนเข้าคิวรอฉีดอีกมาก ประโยคที่ว่าคนชายแดนใต้ไม่ยอมฉีดวัคซีนนั้นไม่จริง นั่นคือส่วนน้อย
ที่นี้มาดูวัคซีนในสต็อกของอำเภอจะนะ เภสัชกรโรงพยาบาลที่คุมคลังวัคซีนรายงานสต็อคให้ผมทราบทุกวัน
สรุปยอดคงเหลือจากฉีด ข้อมูล ณ วันที่ 5/10/64 เวลา 19 น.
SV ซิโนแวค ยอดยกมา 858 ขวด ใช้ไป 127 ขวด คงเหลือ 731 ขวด ( 1 ขวดฉีดได้ 1 คน)
AZ แอสตร้า ยอดยกมา 30 ขวด ใช้ไป 15 ขวด คงเหลือ 15ขวด ( 1 ขวดใช้ได้ 11-12 คน นั่นคือมีแอสตร้าสำหรับ 170 คน)
SP ซิโนฟาร์ม ยอดยกมา 1,347 โดส ใช้ไป 314 โดส คงเหลือ 1,033โดส (วัคซีนนี้มีเจ้าของ ส่วนใหญ่เป็นองค์กรหรือโรงงาน ไม่สามารถใช้นอกกลุ่มได้)
PZ ไฟเซอร์ ยอดยกมา 1,200 โดส รับเพิ่ม 1,320 โดส ใช้ไป 0 โดส คงเหลือ 2,520 โดส ซึ่งมีนัดหมายฉีดเด็กนักเรียนวันที่ 7 และ 9 ตุลาคม จำนวน 2,535 คน (คงไม่มาบางส่วน)
จะเห็นได้ว่าวัคซีนที่มีนั้น หากฉีดเต็มที่ 1-2 วันก็จะหมดจากคลัง อย่างไรก็ตาม เราก็ได้รับจัดสรรวัคซีนจากจังหวัดมาเติมเรื่อยๆ แต่แน่นอนว่า ไม่มี lot ใหญ่ที่จะมากระจายเพื่อการควบคุมโรค
หากจะควบคุมการระบาดในจังหวัดชายแดนใต้ ต้องเทวัคซีนมาจำนวนมาก จัดเพิ่มจากเดิมที่ได้ปกติอยู่แล้ว เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 5 แสนโดส (ไม่รวมไฟเซอร์นักเรียน) ระดมฉีดให้หมดในเดือนตุลาคม จะทำให้เดือนพฤศจิกายน สถานการณ์จะค่อยๆดีขึ้น
ทราบว่าผู้หลักผู้ใหญ่ทุกระดับใน สธ.กำลังจัดการจัดสรรวัคซีนล็อตใหญ่มาเพิ่มในจังหวัดชายแดนใต้ เพราะนี่คืออาวุธที่สำคัญที่สุดที่เรามีในการสู้ภัยโควิดครับ
