“ชลน่าน” เผยหากบิ๊กเนม “พปชร.” ขอกลับมา “เพื่อไทย” ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของพรรค ยืนยันยังไม่มีใครติดต่อมาพูดคุยเป็นการส่วนตัว
เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.)กล่าวถึงกระแสข่าวกรณีที่จะมีบิ๊กเนมจากพรรคพลังประชารัฐ ย้ายกลับมาพรรคเพื่อไทยว่า เมื่อมาแล้วก็ต้องเข้าสู่กระบวนการตามหลักการและแนวทางของพรรคที่ได้วางระบบเอาไว้ ไม่ติดว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐหรือพรรคไหนที่จะย้ายมาอยู่พรรคเพื่อไทย แต่เขามาแล้วจะอยู่ในฐานะไหน จะได้เป็นผู้สมัครหรือไม่อยู่ในกระบวนการพิจารณา
ส่วนขณะนี้มีการส่งสัญญาณหรือได้ยินเรื่องที่จะมีคนย้ายจากพรรคพลังประชารัฐมาพรรคเพื่อไทยบ้างหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า อาจจะส่งสัญญาณที่อื่น เพราะส่วนตัวยังไม่ได้รับ และตนยังไม่ได้ยินเรื่องนี้ ทั้งนี้ กลไกของพรรคเพื่อไทยเราวางไว้ 21 โซน ที่เป็นคณะทำงานแมวมองหรือสเกาต์คอยรับและกลั่นกรองเรื่องเหล่านี้ ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการของคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ซึ่งตนเป็นประธานอยู่ โดยจะเป็นการแบ่งตามภาค เช่น ภาคเหนือ ประธานโซนคือนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ ที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ภาคอีสาน แบ่งเป็น 4 โซน มีประธานโซน เช่น นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขณะที่ กทม.แบ่งออกเป็น 6 โซน มีประธานโซน เช่น นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล แกนนำพรรคเพื่อไทย
ส่วน มีการปิดประตูนัดคุยกันหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า “บางเรื่องก็ต้องปิดประตู”แต่ขณะนี้ ที่มาคุยกับตนโดยตรงยังไม่มี เพราะระบบเราวางไว้แบบนี้ แต่ก็อาจจะมีการเข้าไปพบปะกรรมการโซน
อย่างไรก็ตามหากมีระดับบิ๊กเนมไหลกลับเข้ามา ก็จะเข้าสู่กระบวนการ ไม่ได้เหมาว่าบิ๊กเนมแล้วจะได้มาเป็นผู้สมัคร ทุกอย่างต้องอยู่ในกระบวนการ เพราะหากไม่ทำจะมีปัญหา เราต้องมีหลักและสามารถอธิบายได้ ไม่ใช่ได้ 1 แล้วหาย 10
เมื่อถามว่า หากเป็นอดีต ส.ส. ที่เขาคิดว่าจะสามารถพาคนเข้ามาได้ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราก็พิจารณา และมาดูว่า เช่น เขามีความประสงค์จะลงในเขตนี้ ถ้าเรามีผู้แทนอยู่ เราก็ยังให้ความสำคัญกับผู้แทนฯ เราอยู่ โดยอาจมีวิธีบริหารจัดการให้มีความสอดคล้องเหมาะสม เพราะบางพื้นที่ก็เปิดโอกาสให้มีเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้น