นายกฯ สั่ง สธ. ติดตามสถานการณ์โอไมครอนใกล้ชิด แนะประชาชนติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดและป้องกันตัวอย่างเข้มงวด ย้ำทุกคนมีความเสี่ยงทั้งหมด
เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ที่สอบถามนายกรัฐมนตรีกรณี การแพร่ระบาด โควิด-19 ที่มีเชื้อกลายพันธุ์โอไมครอน ทำให้ขนาดนี้บางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น อิสราเอล ปิดประเทศเพื่อคุมการแพร่ระบาด ว่า เรื่องนี้นายกชี้แจงว่าเป็นเรื่องปกติของโรคระบาด เรื่องการกลายพันธุ์ของไวรัส เป็นเรื่องที่สังคมโลกจะต้องพบในการระบาดโควิด-19 รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข มีการติดตามการกลายพันธุ์ทุกสายพันธุ์
โดยมีการตรวจผู้ติดเชื้อ อาทิตย์ละ 4,000-5,000 อยู่แล้ว รัฐบาลได้สั่งการให้ตรวจหาผู้ติดเชื้ออย่างเข้มงวด เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อโอไมครอนอย่างรวดเร็วที่สุด คงมาตรการเข้มข้นสำหรับการเดินทางเข้าประเทศทางอากาศ และเพิ่มเรื่องการเข้าประเทศทางบกและทางเรือ โดยสั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง และจะลงโทษเจ้าหน้าที่ที่มีการปล่อยประละเลยเรื่องการเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย และมีการติดตามข้อมูลเชื้อกลายพันธุ์โอไมครอน อย่างใกล้ชิดว่า โอไมครอนมีคุณสมบัติการแพร่กระจายเชื้อรุนแรงกว่า เดลต้า อัลฟ่า หรือผู้ติดเชื้อมีอาการรุนแรงมากกว่าหรือไม่อย่างไร
ส่วนกรณีที่เศรษฐกิจกำลังเดินหน้าไปด้วยดี เชื้อกลายพันธุ์โอไมครอนทำให้เกิดความวิตกกังวล นายกรัฐมนตรีจะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนอย่างไรนั้น ทางนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า เตรียมความพร้อมเรื่องมาตรการควบคุม ป้องกัน การติดตามให้ทันสถานการณ์ เร่งฉีดวัคซีน ให้ครอบคลุมมากขึ้นก็จะช่วยลดอัตราอาการรุนแรงได้ และลดการเสียชีวิตจากการติดเชื้อ โควิด-19 ทุกสายพันธุ์ได้ ให้ข้อมูลต่อประชาชน หากพบโอไมครอนในประเทศไทยอย่างทันท่วงที และขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมมือในการป้องกันใช้หลักการดูแลตนเองแบบครอบจักรวาล โดยคิดว่าทุกคนมีความเสี่ยงทั้งหมด ต้องป้องกันตัวเองเสมอตามมาตรการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ