กรณีบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NBC แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2563 รับทราบการลาออกของนายฉัตรชัย ภู่โคกหวาย จากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการและกรรมการบริหารของบริษัทฯ ตามหนังสือลาออก ฉบับลงวันที่ 26 ต.ค.2563 โดยให้มีผลตั้งแต่ 26 ต.ค.2563 เป็นต้นไป
พร้อมทั้งอนุมัติแต่งตั้ง นายสุภวัฒน์ สงวนงาม ดำรงตำแหน่งรักษาการกรรมการผู้จัดการ แทนนายฉัตรชัย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.2563 ทั้งนี้ จนกว่าจะได้มีการสรรหาและแต่งตั้งบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ
จากนั้น “เจ๊ปอง-อัญชะลี ไพรีรัก” และ “สันติสุข มะโรงศรี” 2 ผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดังทาง “ช่องเนชั่นทีวี” ประกาศตัดสินใจยุติการทำรายการข่าวกับทางเนชั่นทีวี โดยจะยกทีมงานและพิธีกรรวมประมาณ 6-7 คน ไปทำรายการข่าวใหม่เพื่อออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ “นิวทีวี ช่อง 18” ซึ่งจะเริ่มแพร่ภาพออกอากาศในวันที่ 1 ธ.ค. 2563 ซึ่งมีนางประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด เป็นเจ้าของช่อง
นอกจากนี้ พิธีกรชื่อดังอย่าง “กนก รัตน์วงศ์สกุล” ซึ่งเป็นผู้บริหาร และภรรยา “ลักขณา รัตน์วงศ์สกุล” ที่ดำรงตำแหน่ง “กรรมการบริหาร บมจ. เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น” ซึ่งประกาศกับ “ผู้ใกล้ชิด” ว่า จะยื่นใบลาออก เพราะรับไม่ได้กับแนวทางการบริหารของผู้บริหารชุดปัจจุบัน
ปรากฏว่า หลังจากเกิดกระแสข่าวดังกล่าว ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก ถึงขนาด “ผู้บริหารระดับสูงของเนชั่น” ต้องออกมาแถลงข่าว เพื่อสยบข่าว ซึ่งไม่ใช่ข่าวลือ โดยยอมรับว่า เกิดกรณีดังกล่าวจริง
แต่ที่ทำให้เกิดการถกเถียงกันมากก็คือ มี “ผู้หญิงคนหนึ่ง” ที่รับรู้กันว่า เป็น “บุคคลสำคัญ” ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ “ผู้บริหารระดับสูงสุดในช่องดังกล่าว” ได้ออกมาปรากฎตัว เพื่อโชว์ให้เห็นว่า “เธอคือใคร???” และมีการเรียก “ผู้ประกาศข่าว-ผู้สื่อข่าว” ในเครือทั้งหมด มาพูดคุยกันที่ ชั้น 10 โดยมีข้ออ้างว่า เพื่อต้องการปรับทุกข์ เปิดใจ แต่เป้าหมายหลักคือ…การร้องขอให้ “อยู่เถอะ…อยู่ต่อเถอะ…อย่าออกไปไหนเลย” ซึ่งกรณีดังกล่าวถือว่า เป็นการกระทำผิดในเชิงจริยธรรม และผิดในกรณีการถือหุ้นสื่อหรือไม่ เนื่องจากบุคคลดังกล่าว มีตำแหน่งทางการเมือง
ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ…ท่าทีของ “กนก รัตน์วงศ์สกุล” เพราะจาก “แหล่งข่าวที่ใกล้ชิด” อธิบายให้ The Key News ฟังว่า “คุณกนก และภรรยา ขอรอดูวันจันทร์ที่ 9 พ.ย.นี้ว่า จะเอาอย่างไรต่อไป โดยยังไม่ได้ให้เหตุผลใดๆ ในการตัดสินใจแต่อย่างใด”
