“หมอธีระวัฒน์”ชี้ คนไทยอย่างไรก็ต้องติด “โอมิครอน”ทั่วหรือเกือบทุกคน ไม่ช้าก็เร็ว ส่วนวัคซีนต้องฉีดที่มีผลแทรกซ้อนน้อยที่สุดคือฉีดเข้าชั้นผิวหนัง พร้อมเผยยาที่ต้องใช้รักษา โควิด
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.64 ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศาสตราจารย์สาขาประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
ชะตาโอไมครอน
27-28/12/64
คนไทยอย่างไรก็ติดโอไมครอน ไม่ช้าก็เร็ว ทั่วหรือเกือบทุกคน ขึ้นกับ
1- ระยะเวลาหลังได้วัคซีน แม้เป็นวัคซีนที่คิดว่าดีที่สุดเช่น ไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา 3 เข็ม ซึ่งแรงกว่า แอสตร้า 3 เข็ม มากกว่า 10 เท่า เมื่อพ้นสามเดือนไปแล้วประสิทธิภาพจะตกลงเหลือ 40% ตามข้อมูลของไฟเซอร์
2- ถ้าไม่เคยฉีดวัคซีนแม้เคยติดเชื้อโควิดมาก่อน ก็ติดโอไมครอนได้
3-การฉีดกระตุ้นขณะนี้ เป็นการหน่วงให้ไม่มีการติดเชื้อ มโหฬารทันทีทันใด เช่นเป็น 10,000 เป็นแสน เป็นล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้จะมีคนที่ไม่ได้รับวัคซีนปนอยู่ด้วย หรือแม้แต่ได้วัคซีนแต่ตกอยู่ในกลุ่มสูงอายุหรือมีโรคประจำตัว ซึ่งทำให้วัคซีนด้อยประสิทธิภาพลง และทำให้อาการรุนแรงขึ้นจนต้องเข้าโรงพยาบาล ไอซียู ในจำนวนมากพร้อมๆกัน เป็นต้น
ทั้งนี้ คนที่ได้รับวัคซีน หรือเคยติดเชื้อมาก่อน ถ้าไม่เปราะบางจริงๆ เมื่อติดโอไมครอน หวังว่าอาการจะผ่อนหนักเป็นเบา ขึ้นกับระบบภูมิความจำ “ยังมีอยู่” หรือถูกปลุกขึ้นมาทันท่วงที ถูกที่ ทันเวลาได้หรือไม่?
5-ในเมื่อวัคซีนด้อยประสิทธิภาพลงอย่างมาก วิธีการฉีดต้องทำให้มีผลแทรกซ้อนน้อยที่สุดโดยการฉีดเข้าชั้นผิวหนัง ที่ใช้ปริมาณน้อย และผ่านคนละกลไกกับแบบเข้ากล้าม ถ้า เกิด “ซวย” ก็ซวยน้อยหรือรอดเลย
6- ยาที่จะใช้รักษาตั้งแต่แรกเริ่มเมื่อมีการติดเชื้อไม่ให้ต้องเข้า โรงพยาบาล มีความจำเป็น และมีความสำคัญ พอกันหรืออาจจะมากกว่าวัคซีนด้วยซ้ำ ฟ้าทลายโจร ไอเวอร์แมคติน ฟลูวอกซามีนหรือฟลูออกซิทีน
หมายเหตุ: การติดทุกคนในพื้นที่ ทั้งประเทศ มาจากการติดตามสถานการณ์ และควบรวมกับคุณสมบัติของไวรัส จาก นักวิเคราะห์อังกฤษ หลายท่าน รวมถึง ดร จอห์น แคมปเบล