“สุดารัตน์” เตือนไม่ควรประมาท”โอมิครอน” แนะรัฐบาลต้องเร่งทำ 4 เรื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมดูแลชีวิต สุขภาพ และเศรษฐกิจของประชาชน และต้องไม่ทำผิดพลาดซ้ำรอยเดิม อย่างที่เกิดในปีที่แล้ว
เมื่อวันที่ 9 ม.ค.65 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยที่เข้าสู่ระลอกที่ 5 อีกทั้งการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนเป็นเรื่องที่ไม่ควรประมาท พร้อมมีข้อแนะนำ 4 เรื่องที่รัฐบาลต้องเร่งทำว่า การระบาดของโควิด-19 รอบที่ 5 จากสายพันธุ์ Omicron เป็นเรื่องที่ไม่ควรประมาท วันนี้ยอดผู้ที่ติดเชื้อขึ้นสูงถึง 8,511 ราย ยังไม่รวมถึง ATK อีก 1,265 ราย และที่บอกว่า Omicron ไม่รุนแรงก็อาจจะไม่ใช่ เพราะตัวเลขผู้เสียชีวิตต่อวันในอังกฤษล่าสุด ระลอก Omicron มีตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงกว่าระลอก Delta แล้ว (คลิก อ่านข่าว)
คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่า และนายทีโดรส อัดฮานอม กรีเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาเตือนว่าอย่าคิดผิดว่า Omicron ไม่รุนแรง ในสัปดาห์เดียวป่วยเพิ่มเกือบ 9.5 ล้านคนทั่วโลก และได้ยกระดับ Omicron เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล (Variant Of Concern :VOC)
ดังนั้น รัฐบาลไทยต้องเตรียมความพร้อม ในการดูแลชีวิต สุขภาพ และเศรษฐกิจของประชาชน และต้องไม่ทำผิดพลาดซ้ำรอยเดิม อย่างที่เกิดในปีที่แล้ว
“4 เรื่อง ที่ต้องเร่งทำคือ 1) ต้องทำ Guide Line ในการดูแลตนเองให้ประชาชนได้รับทราบว่าจะป้องกันตัวเองจากOmicron อย่างไร เช่น เรื่องหน้ากากที่จะใช้หน้ากากผ้าป้องกันไม่ได้อีกแล้ว ควรเป็นหน้ากาก N95 หรือต้องสวมหน้ากาก 2 ชั้น อย่าอยู่ในที่แออัดในที่อากาศไม่ถ่ายเทต้องเคร่งครัดเรื่องเว้นระยะห่างเพราะเชื้ออยู่ในอากาศติดได้ง่ายมากกว่าเชื้อชนิดที่ผ่านมา
“2) ต้องให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจ ATK และ RT-PCR ได้ง่ายและทั่วถึงให้มากที่สุด เพราะหัวใจของการควบคุมโรค คือการตรวจให้มากที่สุด เร็วที่สุด จึงจะควบคุมโรคได้ เราจึงจะสามารถ Balance ระหว่างการควบคุมโรค กับสภาวะเศรษฐกิจได้ โดยไม่ต้องปิดเมืองปิดประเทศอีก
“3) เร่งฉีดวัคซีนให้คนไทยทุกคนโดยเฉพาะคนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน 20 ล้านคน และผู้ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตาย 2 เข็ม อีก 10 ล้านคน (ขอบคุณข้อมูลจากคุณเจษฎาคลับเฮ้าส์ ห้องส่องทางไกล) รวมทั้งต้องเร่งฉีด Booster ให้กับคนไทยที่ถึงเกณฑ์แล้วทุกคน เพื่อลดการป่วยหนักและเสียชีวิตจากการติด Omicron
“4) เร่งเตรียมระบบการดูแลผู้ติดเชื้อ ตั้งแต่การปรับระบบ 1330 สำหรับผู้ติดเชื้อที่อาการไม่มากต้องทำต้องการทำ Home Isolation ต้องรีบจับคู่สถานพยาบาลให้ผู้ติดเชื้อที่ต้องการทำ Home Isolation ได้รับการดูแล และได้รับยา สำหรับผู้ที่ติดเชื้อที่ต้องการเข้า Hospital ก็ต้องเร่งจัดหาเตียง ให้เพื่อเตรียมการรองรับ ไม่ให้ระบบสาธารณสุขของไทยต้องล่มอีก ทุกท่านโปรดดูแลสุขภาพให้ดีนะคะ ขอให้ทุกท่านปลอดโรคปลอดภัยนะคะ”