นายกรัฐมนตรีประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เห็นชอบจัดทำแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ในรูปแบบเฉพาะกิจเพื่อรองรับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงระหว่างปี 2564-2565
เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 2/2563 ร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง สรุปผลการประชุมได้ดังนี้
คณะกรรมการฯ ได้รับทราบความก้าวหน้าการปรับปรุงแผนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศทั้ง 13 ด้าน ที่คณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 อยู่ระหว่างการปรับปรุงแผนการปฏิรูปประเทศ ตามนัยของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562 และ 5 พฤษภาคม 2563
โดยคณะกรรมการฯ ได้เสนอแนะให้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศรับไปพิจารณาให้ความสำคัญกับกิจกรรมปฏิรูปประเทศที่มีนัยสำคัญ เร่งด่วน และมุ่งเน้นประโยชน์ต่อประชาชนโดยรวม (หรือ Big Rock) เช่น ด้านการเมือง เสนอเรื่องปฏิรูปการเมืองที่ชอบธรรมและสุจริต ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน เสนอเรื่องปฏิรูปการเบิกจ่ายของภาครัฐ และควรให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ในการวิเคราะห์และบริหารราชการแผ่นดิน ด้านกระบวนการยุติธรรม เสนอเรื่องปฏิรูประบบการลดโทษของราชทัณฑ์ ด้านเศรษฐกิจ เสนอเรื่องปฏิรูปการนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ และควรให้ความสำคัญกับกิจกรรม Wellness/Medical center Logistics และการเป็น Regional Office Center
ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอเรื่องปฏิรูปด้านที่ดินทำกิน การจัดการมลพิษ ขยะ น้ำเสีย และปัญหาหมอกควัน การส่งเสริมเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ รวมทั้งควรให้ความสำคัญกับการเพิ่มพื้นที่สีเขียวทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ เสนอปฏิรูปเรื่องการส่งเสริมสื่อสร้างสรรค์ที่ดีและมีคุณภาพ และควรให้ความสำคัญกับการสร้างภูมิคุ้มกันแก่ผู้บริโภคสื่อ
ด้านสังคม เสนอเรื่องปฏิรูปสังคมที่เข้มแข็ง ปลอดภัย และอบอุ่น การปฏิรูปที่ดินเพื่อการยังชีพและการพัฒนาเมือง รวมทั้งควรให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นคงให้กับประชาชนทั้งก่อนและหลังวัยเกษียณ ด้านพลังงาน เสนอให้เพิ่มเติมเรื่องพลังงานหมุนเวียนและชีวภาพ ด้านการศึกษา เสนอให้เน้นความสำคัญด้านการเรียนการสอน และด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เสนอให้เน้นความสำคัญของการนำค่านิยมที่ดีมาปรับหลักคิดและทัศนคติ เป็นต้น
โดยการปรับปรุงแผนการปฏิรูปประเทศดังกล่าวจะต้องเสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะรัฐมนตรีพิจารณา รวมทั้งรายงานต่อรัฐสภาทราบก่อนประกาศใช้ในช่วงประมาณปลายปี พ.ศ. 2563 ต่อไป