“แจ๊คผู้ฆ่าทอน” เดินหน้าร้องเรียน “ผบ.ตร.” ให้เอาผิด “ลูกน้อง” ที่ปล่อยปะละเลย ไม่สั่งฟ้อง “น้องชายธนาธร” กรณียัดเงินใต้โต๊ะ 20 ล้านบาท ทั้งที่คำพิพากษา หน้า 9 บรรทัดที่ 10 iะบุชัดเจนว่ามีพฤติกรรม ลั่นกลัวซ้ำรอย “คดีบอสกระทิงแดง” จึงมีคำตอบให้สังคม เพื่อรักษาไว้ซึ่งกระบวนการยุติธรรมไม่ให้ถูกทำลายด้วยเงินของนายทุน
เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.63 นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึงพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ผ่าน พ.ต.อ.นันพิเดช ศรีเขียวรัตน์ รองผู้บังคับการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวน “ร้อยเวรเจ้าของคดี” และ “ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาล” ผู้รับผิดชอบสำนวนคดี ว่าเหตุใดจึงไม่มีการสั่งฟ้อง “นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เพราะในคำพิพากษาหน้า 9 บรรทัดที่ 10 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ อท 76/2562 คดีหมายเลขแดงที่ อท 228/2562 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ระบุชัดเจนถึงพฤติกรรมของนายสกุลธร ว่าเป็นผู้กระทำความผิดที่ได้ให้เงิน 20 ล้านบาทกับ “นายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายโครงการพิเศษ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ชื่อเดิม) และ “นายสุรกิจ ตั้งวิทูวนิช” เพื่อให้บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้สิทธิการเช่าระยะยาวที่ดินบริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ชิดลม) ซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ โดยมีค่าตอบแทนจำนวน 500 ล้านบาท เพื่อไม่ต้องผ่านการประมูลแข่งขันตามขั้นตอนปกติ
นายวัชระ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ประชาชนสนใจกันมาก เพราะเกิดความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎชัดขนาดนี้ ตนจึงต้องสอบถามแทนประชาชนว่า เหตุใด? พนักงานสอบสวนจึงไม่สั่งฟ้องนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ เพราะเกรงว่าอาจจะซ้ำรอยกรณีคดี “บอส กระทิงแดง” ได้ ดังนั้น ผบ.ตร.จะต้องมีคำตอบให้สังคมอย่างชัดเจนโดยเร็วที่สุด เพื่อรักษาไว้ซึ่งกระบวนการยุติธรรมไม่ให้ถูกทำลายด้วยเงินของนายทุน
สำหรับบริษัท เรียล แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เดิมจดทะเบียนชื่อ บริษัท อีสเทิร์น ฮิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี่คลับ จำกัด ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ไทยซัมมิท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็นบริษัท เรียล แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ ขณะกระทำผิดตามคำพิพากษานี้คือเดือนมีนาคม 2560-18 กันยายน 2560 บริษัทมีนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ และบุคคลอื่นถือหุ้นร่วมกัน
