หน้าแรกNEWSนายกฯเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ ถกทวิภาคี “ลอว์เรนซ์ หว่อง” ย้ำสัมพันธ์แน่นแฟ้นครบรอบ 60 ปี ไทย–สิงคโปร์

นายกฯเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ ถกทวิภาคี “ลอว์เรนซ์ หว่อง” ย้ำสัมพันธ์แน่นแฟ้นครบรอบ 60 ปี ไทย–สิงคโปร์

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นายกฯเดินทางเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการครั้งแรก เข้าพบนายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เพื่อหารือทวิภาคีและกระชับความร่วมมือในหลายมิติ ทั้งพลังงานสะอาด ความมั่นคงทางอาหาร การลงทุนเทคโนโลยีขั้นสูง และการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ สะท้อนมิตรภาพอันยาวนานระหว่างสองประเทศในวาระครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 พ.ย.(ตามเวลาท้องถิ่นสิงคโปร์ ซึ่งเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 1 ชั่วโมง) ที่กระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ และตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ โดยนายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น  จากนั้นนายกฯร่วมหารือทวิภาคีกับนายกฯสิงคโปร์ ที่ห้อง Heritage ชั้น 2 กระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์

โดยนายกฯไทย กล่าวขอบคุณนายกฯสิงคโปร์และรัฐบาลสิงคโปร์ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นในโอกาสเดินทางเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการครั้งแรก พร้อมขอบคุณสำหรับพิธีตั้งชื่อกล้วยไม้ในช่วงเช้า และแสดงความซาบซึ้งที่นายลี เซียน ลุง ได้เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 

ด้านนายกฯสิงคโปร์ แสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ก่อนแสดงความยินดีที่มีโอกาสต้อนรับนายกฯ ในช่วงต้นของการดำรงตำแหน่ง พร้อมกล่าวว่า เฝ้ารอการเยือนของนายกฯไทย หลังจากได้ใช้เวลาร่วมกันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในการประชุมอาเซียนที่มาเลเซีย และการประชุมเอเปคที่เกาหลีใต้  ทั้งนี้ การเยือนครั้งนี้มีความสำคัญยิ่งเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสิงคโปร์ ทั้งยังสะท้อนมิตรภาพอันลึกซึ้งระหว่างสองประเทศที่มีมาก่อนการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต 

นายกฯสิงคโปร์ ยังกล่าวยกตัวอย่างการเสด็จเยือนสิงคโปร์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งพระราชทานรูปหล่อช้างสำริดให้ไว้เป็นที่ระลึก และยังคงตั้งอยู่ ณ อาคารรัฐสภาเก่าของสิงคโปร์มาจนถึงปัจจุบัน พร้อมย้ำถึงความผูกพันที่แน่นแฟ้นระหว่างประชาชนและผู้นำของทั้งสองประเทศ อันเป็นรากฐานสำคัญของความร่วมมือที่เข้มแข็งและหลากหลายมิติ และความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับนายกฯไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือไทย–สิงคโปร์ให้ก้าวหน้าและมั่นคงยิ่งขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย 

ขณะที่นายกฯไทย กล่าวว่า ในวาระครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ ผู้นำไทยและสิงคโปร์ต่างเห็นพ้องว่าเป็นโอกาสสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระดับสูง ทั้งจากการเยือนระดับราชวงศ์ การเยือนประเทศไทยของนายลอว์เรนซ์ หว่อง เมื่อเดือนพ.ย.ปีก่อน รวมทั้งการพบปะระหว่างรมว.ต่างประเทศ และรมว.พาณิชย์ของทั้งสองประเทศ  พร้อมเชิญนายกฯสิงคโปร์เยือนไทยในโอกาสที่สะดวกด้วย 

จากนั้นทั้งสองฝ่ายหารือความร่วมมือระหว่างกันโดยนายกฯไทยและสิงคโปร์ต่างเห็นพ้องควรให้ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาด สนับสนุนโครงการไฟฟ้าเชื่อมโยงระยะที่ 2 ระหว่างลาว–ไทย–มาเลเซีย–สิงคโปร์ เพื่อส่งเสริมโครงข่ายพลังงานอาเซียน ด้านความมั่นคงทางอาหาร นายกฯไทยกล่าวว่า ไทยพร้อมเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารให้สิงคโปร์ โดยการลงนามบันทึกความร่วมมือด้านการค้าข้าวในวันนี้ จะช่วยให้สิงคโปร์มีข้าวไทยคุณภาพสูงเพียงพอต่อการบริโภค ทั้งยังเสนอให้มีการหารือแนวทางลงทุนร่วมในธุรกิจเก็บรักษาและแปรรูปอาหาร และจัดตั้งคณะทำงานความมั่นคงทางอาหารร่วมกัน เพื่อกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหาร โดยรมว.พาณิชย์ได้นำเสนอ model food security ที่เป็นมากกว่าการขายอาหาร แต่เป็นการขายความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งความร่วมมือนี้จะเป็นโครงการบุกเบิก (pioneer project) ระหว่างไทย-สิงคโปร์ในเรื่องนี้ต่อไป 

ส่วนด้านการลงทุน นายกฯไทย กล่าวยินดีต้อนรับนักลงทุนสิงคโปร์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า ไบโอเทค และ Data Center นอกจากนี้ ไทยและสิงคโปร์ยังหารือถึงแนวทางในการเพิ่มความร่วมมือด้านพัฒนาทักษะดิจิทัล รัฐบาลดิจิทัล ความมั่นคงไซเบอร์ และการป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์ รวมทั้งเชิญชวนบริษัทสิงคโปร์ลงทุนในโครงการไทยแลนด์ดิจิทัลวัลเลย์ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีด้วย

ขณะที่ด้านความมั่นคง นายกฯไทย กล่าวว่า ไทยและสิงคโปร์เห็นพ้องที่จะคงความร่วมมือด้านการฝึกทางทหารและการใช้สถานที่ฝึกของกองทัพสิงคโปร์ในไทย พร้อมหารือความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ การลงทุนร่วม วิจัยเทคโนโลยีทางทหาร และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ 

ส่วนด้านการต่อต้านอาชญกรรมข้ามชาติ ไทยขอรับความร่วมมือในการทำงานร่วมกับสิงคโปร์อย่างใกล้ชิดในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับนานาชาติว่าด้วยการแก้ไขปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ และขอให้สิงคโปร์เป็นพันธมิตรที่เข้มแข็งกับไทยในการแก้ไขปัญหานี้ รวมถึงขยายเครือข่ายข่าวกรอง การฝึกอบรม และปฏิบัติการร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชา นายกฯไทยและนายกฯสิงคโปร์เห็นพ้องว่า “Joint Declaration” ที่ไทยและกัมพูชาได้ลงนาม จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์  โดยนายกฯไทย เน้นย้ำว่า ไทยให้ความสำคัญกับการดำเนินการใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ การถอนอาวุธหนัก การเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม การแก้ไขปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ และการจัดการปัญหาการรุกล้ำพื้นที่ พร้อมขอบคุณสิงคโปร์ที่ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยสันติวิธี.

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES
- Advertisement -spot_imgspot_img

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img