ผบ.ตร. ส่งสัญญาณชัดถึง “อัจฉริยะ” หากมีหลักฐานขบวนการสแกมเมอร์ให้ส่งตรงตำรวจ อย่าทำให้กระทบภารกิจนายกรัฐมนตรี ย้ำตำรวจดีมีมาก หากพบใครเกี่ยวข้องพร้อมฟันไม่เลี้ยง ด้านคดีเด็กหญิงวัย 12 ถูกพาไปค้าประเวณีที่ญี่ปุ่น ล่าสุดแม่ถูกควบคุมตัวได้ที่ไต้หวัน เตรียมประสานขอตัวกลับไทยสอบสวน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 พ.ย. ที่บริเวณท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ประกาศเตรียมไปนั่งขวางทางเข้ารถยนต์ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อมอบหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับขบวนการสแกมเมอร์ระดับชาติ รวมถึงจะสอบถามนายกฯ ว่าจะ “ปิดเว็บพนันออนไลน์กี่โมง” ในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า หากมีหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องใด ขอให้ส่งผ่านช่องทางที่ถูกต้อง อย่าทำให้กระทบกับภารกิจของนายกรัฐมนตรีหรือประชาชนทั่วไป พร้อมย้ำว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมตรวจสอบทุกเรื่อง หากมีข้อมูลเชื่อมโยงเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง “ผมฟันไม่เลี้ยงแน่” แต่ไม่ควรเหมารวมว่าทั้งองค์กรมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะตำรวจส่วนใหญ่ตั้งใจทำงานอย่างสุจริต การพูดเช่นนี้ย่อมทำให้เสียกำลังใจ
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ถาโถมใส่สำนักงานตำรวจแห่งชาติรายวัน ผบ.ตร. ยืนยันว่า “ไม่สั่นคลอน” เพราะตำรวจยังคงทำงานอย่างหนักแน่น และขอให้ผู้ใต้บังคับบัญชามุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ ไม่หวั่นต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์
ส่วนกรณีเยาวชนหญิงอายุ 12 ปี ถูกแม่พาไปทำงานในร้านนวดที่ประเทศญี่ปุ่นและถูกบังคับให้ค้าประเวณีตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนที่ตำรวจญี่ปุ่นจะช่วยเหลือไว้ได้เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ล่าสุดทางการไต้หวันได้ควบคุมตัวแม่ของเด็กหญิงไว้แล้ว และมอบหมายให้ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบ.ตร. เร่งประสานขอตัวผู้ต้องหากลับประเทศไทยเพื่อสอบปากคำ
ส่วนเด็กหญิงวัย 12 ปี ขณะนี้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น โดยกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) อยู่ระหว่างประสานเพื่อขอรับตัวกลับไทยเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองเด็กอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมมีนักสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำอย่างละเอียด






































