“ศรีสุวรรณ” จี้ ปอท.เชือดนารา เครปกะเทย ,เอเยนซี่ และลาซาด้า ม.112 หมิ่นผู้ป่วยพิการ
เมื่อวันที่ 7 พ.ค.65 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ากล่าวโทษนารา เครปกระเทยและพวก ฐานดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ตาม ปอ.มาตรา 112 ประกอบ มาตรา 14 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 และแก้ไขปี 2560
นายศรีสุวรรณ เผยว่า สืบเนื่องจากสื่อสังคมออนไลน์ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอและข้อมูลจากแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ของลาซาด้า และจากเพจเฟซบุ๊กของ “นารา เครปกะเทย” รวมทั้งจากผู้ใช้บัญชีในแอพพิเคชั่นติ๊กต็อชื่อ@nara.aniwat700 เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นการโฆษณาแคมเปญลดราคาสินค้าของลาซาด้า แสดงโดย นารา เครปกะเทย เน็ตไอดอลสายตลก และหนูรัตน์ หรือ น.ส.ธิดาพร ชาวคูเวียง อันมีลักษณะไม่เหมาะสม เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามผู้ป่วยหรือผู้พิการกลายเป็นตัวตลก ซึ่งปุถุชนทั่วไปมองว่าโฆษณาดังกล่าวมีเนื้อหาล้อเลียน เสียดสีบุคคลอันเป็นที่เคารพสักการะ หลายคนเห็นแล้วไม่สบายใจ เพราะมีรูปภาพหรือการแสดงที่มีลักษณะอาจตีความได้ว่าเป็นการเจตนาจะพาดพิง ดูหมิ่น สถาบันเบื้องสูง หรือสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย อีกทั้งเมื่อตรวจสอบในเพจเฟซบุ๊ก “นารา เครปกะเทย” ยังมีการโพสต์ภาพโปรโมตสินค้าที่อาจเข้าข่ายดูหมิ่นสถาบันกษัตริย์ของไทย โดยมีบรรดาแฟนคลับแนวร่วมเข้ามาคอมเมนต์ ด้วยข้อความที่ไม่เหมาะสม สมทบอีกเป็นจำนวนมาก
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าว แม้ทางบริษัทเอเยนซี่โฆษณาและลาซาด้าจะออกแถลงการณ์ออกมาขอโทษแล้วก็ตาม แต่การกระทำทั้งหมดถือว่าเป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว เข้าองค์ประกอบตาม ปอ.มาตรา 83 ซึ่งล้วนเป็น “ตัวการร่วม” ในฐานะผู้ผลิต ผู้ใช้ ผู้สนับสนุน อันอาจมีความผิดตามกฎหมาย อีกทั้งเป็นการบูลลี่ และดูหมิ่นผู้พิการ อันเป็นการกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 4 ประกอบ มาตรา 27 ให้การคุ้มครองไว้
“สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงไม่อาจปล่อยผ่านให้บุคคลหรือบริษัทใดทั้งบริษํทคนไทยหรือต่างชาติ เข้ามาทำมาหากินในประเทศไทย โดยใช้วิธีการที่สกปรก อันเป็นการ ดูหมิ่นเหยียดหยามสถาบันเบื้องสูง ด้อยค่า ลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือ คุณค่าความเป็นมนุษย์อันเป็นการทำธุรกิจที่ขัดกับหลักสิทธิมนุษยชน รวมทั้งเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อคนพิการอีกด้วย จึงจำเป็นต้องมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลหรือบริษัทต่างๆที่เกี่ยวข้องตามครรลองของกฎหมาย เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป “นายศรีสุวรรณ กล่าว