‘รุ้ง’ลั่นหาก 3 ข้อเรียกร้องไม่ได้รับการตอบรับจะเหลือเพียงข้อเดียว ขณะที่’เพนกวิน’ประกาศชัดเจนแยกทางกับกลุ่มเยาวชนปลดแอก
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า เรียนราษฎรผู้รักในประชาธิปไตยทุกคน เนื่องจากตอนนี้เกิดความสับสนขึ้นต่อจุดยืนของแกนนำแต่ละคน และกลุ่มต่าง ๆ รุ้งจึงขอชี้แจงกับทุกคนเพื่อยุติความสับสนดังนี้ รุ้งเป็นสมาชิกของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
จุดยืนของเราในการเคลื่อนไหวมีดังต่อไปนี้คือ 1. ประยุทธ์และองคาพยพต้องออกไป 2. การแก้รัฐธรรมนูญให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน 3. การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
เรายึดมั่นในหลักสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค เราสนับสนุนการมีรัฐสวัสดิการเพื่อให้ทุกคนมีโอกาสและการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และหากข้อเสนอ 3 ข้อนี้ไม่ได้รับการตอบรับ ข้อเรียกร้องเพียงข้อเดียวคงเป็นทางเลือกสุดท้ายในที่สุดที่ต้องออกมาชี้แจงเพียงเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนขึ้นว่าจุดยืนของแต่ละคนเป็นยังไงเพียงเท่านั้น เราสนับสนุนให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรีค่ะ
ขณะที่ ‘เพนกวิน’ พริษฐ์ ชิวารักษ์ โพสต์ว่า พี่น้องผู้รักประชาธิปไตยทุกท่านผมขอชี้แจงกับทุกท่านว่าผมเป็นสมาชิกของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่มเยาวชนปลดแอก (Free Youth) และจุดยืนที่ปรากฏในเพจเยาวชนปลดแอกนั้น เป็นแนวทางของกลุ่มเยาวชนปลดแอกเอง ไม่ใช่แนวทางของผม ไม่ใช่ของแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ และที่สำคัญ ไม่ใช่มติของราษฎร ผมยังคงยึดมั่นในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่ไม่มีศักดินาแทรกแซงครอบงำ เพื่อประชาธิปไตยที่ทุกคนมีสิทธิ เสรีภาพ และความเท่าเทียม และเพื่อประชาธิปไตยที่มีรัฐสวัสดิการโอบอุ้มชีวิตของทุกคน
การเสนออุดมการณ์ไม่ว่าจะแนวคิดใดมิใช่เรื่องผิดบาป ถือเป็นเสรีภาพของผู้เสนอ แต่ในเชิงการเคลื่อนไหวต่อสู้นั้น จะต้องประเมินให้ดีว่าแนวคิดที่จะเสนอนั้นสอดคล้องกับเจตจำนงของมวลชนหรือไม่ ในขณะที่เราตัดสินใจจะพังเพดานในเวทีธรรมศาสตร์ในวันที่ 10 สิงหาคมนั้น เราได้วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์อย่างถี่ถ้วนแล้วว่าปัญหาของสถาบันกษัตริย์คือสิ่งที่อยู่ในใจของพี่น้องที่ร่วมต่อสู้ ดังจะเห็นว่านับแต่การชุมนุมครั้งแรก เราเห็นป้ายกล่าวถึงปัญหาของสถาบันกษัตริย์ปรากฎอยู่ทุกแห่งหนในการชุมนุม เราจึงลุกขึ้นพูดเพื่อประกาศเจตจำนงของมวลชน เพราะถึงที่สุด การต่อสู้จะสำเร็จได้มิใช่ด้วยเจตจำนงของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่จะสำเร็จด้วยเจตจำนงร่วมของพี่น้องทุกท่าน
ในประเด็นเรื่องสามข้อหรือข้อเดียวนั้น เรายังยึดมั่นในข้อเสนอสามข้อซึ่งจะนำไปสู่การปฏิรูป แต่ตามธรรมชาติแล้ว การปฏิรูปจะเกิดขึ้นก็เมื่อชนชั้นนำยอมปรับเปลี่ยนตัวเองให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน หากชนชั้นนำไม่ยอมปรับตัวก็จะไม่เกิดการปฏิรูป และเมื่อไม่เกิดการปฏิรูปก็จะเกิดการปฏิวัติ เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ทั่วโลก ดังนั้น ขณะนี้ ถ้าเปรียบประเทศไทยเป็นรถยนต์ก็เหมือนอยู่ที่สามแยก ทางหนึ่งเลี้ยวไปหาการปฏิรูป ทางหนึ่งเลี้ยวไปหาการปฏิวัติ ประชาราษฎรได้ขับรถมาถึงหน้าสามแยกแล้ว แต่จะเลี้ยวไปทางไหนนั้น สถาบันกษัตริย์และองคาพยพศักดินาจะเป็นผู้ตัดสินใจ ถ้าเลือกปรับปรุงตัวรถก็เลี้ยวเข้าถนนปฏิรูปสามข้อ แต่ถ้ายังดื้อด้าน รถก็เลี้ยวเข้าทางปฏิวัติข้อเดียวก็เท่านั้น จึงเรียนมาเพื่อแถลงไข
ขณะที่ แถลงการณ์แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เรื่องจุดยืนต่อแนวทางการเคลื่อนไหวของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โดยระบุว่า เนื่องด้วยกระแสความคิดด้วยการแก้ไขปัญหาทางการเมืองและสังคมไทย ที่มีอยู่อย่างหลากหลาย เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพื่อความกระจ่างถึงจุดยืนของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการเมือง ขอยืนยันตามเดิมในข้อเรียกร้อง 3 ประการ ของคณะราษฎร คือ 1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และองคาพยพ ลาออก 2.รัฐสภาต้องเปิดประชุมวิสามัญทันทีเพื่อรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และ 3 ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
โดยยังยึดมั่นในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ที่ไม่มีเผด็จการ หรือศักดินาแทรกแซง ครอบงำ เพื่อประชาธิปไตยที่ทุกคนมีสิทธิ เสรีภาพ และความเท่าเทียม