วันอาทิตย์, กันยายน 29, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS“อนุทิน”ยืนยัน“ภท.”ไม่มีแหกคอก ตราบใดที่ยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“อนุทิน”ยืนยัน“ภท.”ไม่มีแหกคอก ตราบใดที่ยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

อนุทิน”ขออย่าเปรียบ”ชัชชาติ-ประยุทธ์”มั่นใจเสียงพรรคร่วมปึ๊กฉลุย ยืนยันไม่เห็นสัญญาณปรับครม.

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.65 ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสสังคมเปรียบเทียบ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปรียบว่าขณะนี้มีนายกฯ สองคน ว่า อย่าไปเทียบ คนที่เทียบก็มีแต่สื่อมวลชนเท่านั้น ทุกคนมาจากการเลือกตั้งของประชาชน นายชัชชาติก็มาจากการเลือกตั้งของคนกรุงเทพฯ จำนวน 1.3 ล้านคน ส่วนพวกเราในสภาฯ ก็มาจากการเลือกตั้งของคนทั้งประเทศ บางพรรคก็ 8 ล้านเสียง บางพรรคก็ 4 ล้านเสียง ไม่เห็นจะมีอะไรแตกต่างกัน สำคัญคือเข้ามาทำงานให้บ้านเมือง พวกเราก็หนักเหมือนกันเพราะต้องทำให้ประเทศ เพราะอาศัยเสียงทั้งประเทศเข้ามากลายเป็น ส.ส.ประเทศไทย ไม่ใช่ ส.ส.จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง ต้องทำงานหนักเหมือนกัน

ส่วนที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัาหน้าพรรครักประเทศไทย ระบุว่า นายอนุทินเหมาะสมเป็นนายกฯหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองเพราะมีความประนีประนอมสูง นายอนุทิน กล่าวว่า หน้าที่เป็นส.ส.ก็ลงพื้นที่ ลงพื้นที่มันก็สนุก ตนเองไม่อยากเป็นเป้า ขอแค่ได้ทำงาน อย่างไรก็ตาม นายกฯไม่มีการส่งสัญญาณปรับครม. ไม่เห็นจะปรับเลย เพราะระยะเวลาเหลือ 9 เดือน หรือน้อยกว่านั้น แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับนายกฯ อำนาจใครอำนาจมัน ส่วนพรรคภูมิใจไทยไม่มีอะไรเสียหาย แต่ไม่ใช่เลือกตั้งในเร็วๆ นี้ แต่ส่วนใหญ่ปีสุดท้ายจะลงพื้นที่กันหมด อย่าเมื่อเช้าตนก็ลงพื้นที่ จ.สระบุรี เพื่อปราบยุงลาย และรีบมาสภาฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวในอนาคตพรรคภูมิใจไทย อาจไปร่วมงานกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นไปได้หรือไม่ นายอนุทิน แปลกใจกับคำถาม พร้อมระบุว่า ไม่มี อย่างที่ตนเคยบอกของบางอย่าง มันไม่ต้องแทง เพราะมันคอนโทรลเป้าหมายไม่ได้ การเลือกตั้งตนกล้าพูดจะมาไหม 10 หรือ 20 คน มันก็ต้องรอผลของการเลือกตั้งให้เรียบร้อย อย่างที่ตนบอก 3 – 4 ทุ่มของวันอาทิตย์ที่เลือกตั้งค่อยคิด จริงๆ เป็นแบบนี้มาตลอด คิดอะไรมากก็ไม่ได้ เพราะคิดก่อนถึงเวลาไม่เป็นไปตามนั้น ก็ต้องถูกเทอยู่ดี มีใครถูกเทเท่ากับพรรคภูมิใจไทย พรรคภูมิใจไทยถูกเท 2 – 3 รอบ เข็ดจนตาย ตอนนี้เทคนอื่นบ้างสิ

เมื่อถามถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เสถียรภาพของรัฐบาลยังดีอยู่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า หน้าจะโอเค เพราะสังเกตจากบรรยากาศในการพบปะ กันไม่ว่าจะเป็นประชุม ครม.หรือนายกฯ เรียกประชุมวงเล็ก หรือการไปทำกิจกรรมต่างของ ครม.ทุกคนก็มีความร่วมมือก็ยังเคารพหัวหน้ารัฐบาลเป็นอย่างดี
เมื่อถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่น่าห่วง แต่พรรคพลังประชารัฐไม่เหมือนเดิมแล้วหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยบอกว่า ต้องไปถามหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่หากถามสถานการณ์ล่าสุดในที่ประชุม ครม. นายกฯ ก็กำชับให้หัวหน้าแต่ละพรรคไปดูแลเสียงของ ส.ส.ของพรรคตัวเองให้ดีที่สุด หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นแกนหลักก็บอกไม่ต้องห่วง ไม่เพียงแต่งบประมาณ ยังรวมไปถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจเลย ท่านก็ตบโต๊ะปั้ง เราก็เชื่อ ถ้าไม่เชื่อแล้วจะไปเชื่อใคร หากไม่เป็นตามนั้นก็ต้องมีต้นทุนที่สูญเสียไป ผิดเกมมากๆ ต้นทุนก็เสี่ยงต่อการถูกเสียงฝ่ายค้านมากกว่ารัฐมนตรีคนไหนถูกไม่ไว้วางใจมากกว่าก็ต้องพ้นตำแหน่ง หรือถ้าไปกดดันมากๆ พ.ร.บ.ไหนก็ไม่ผ่าน นายกฯ ก็ต้องไปคิดสะระตะ แล้วว่า ถ้าควบคุมคนไม่ได้ก็ไปว่ากันใหม่ โดยนายกฯ อาจต้องใช้สิทธิของนายกฯประกาศยุบสภาฯ แต่ละคนจะมีอำนาจหน้าที่ของตัวเอง มีภารกิจของตัวเองที่ต้องไปทำ และในส่วนของเราตนก็ทำให้ดีที่สุด ซึ่งตนกล้าพูดเลยว่าถ้าเป็นห่วงในส่วนของพรรคภูมิใจไทยในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลคือไม่ต้องห่วง ตนรับผิดชอบและยืนยันว่าไม่มีเท ไม่มีแหกคอก ตราบใดที่ยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ก็จะไปด้วยกันอย่างนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ห่วงหรือไม่ความนิยมของพรรคภูมิไทยจะดิ่งลง นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเชื่อว่าประชาชนแยกแยะได้ พวกเราเป็นรัฐบาล รัฐมนตรีทุกคนทำงาน ไม่ใช่ว่าเมื่อมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว พรรคใดพรรคหนึ่งอ่อนแอนลง และกลายเป็นจุดเสียหมด มันไม่ใช่อย่างนั้น แต่คนที่เป็นรัฐมนตรีก็ทำหน้าที่รัฐมนตรี หน้าที่รัฐบาล ซึ่งในรัฐบาลก็มี รัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากพรรคใด แต่มาจากโควตากลาง และรัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.ก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ให้ดูที่ผลงานของแต่ละกระทรวงดีกว่า

เมื่อถามว่า คนที่จะเป็นนายกฯ ในวันข้างหน้าต้องมาจากการเลือกตั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า การที่มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็ถือว่าเลือกตั้งแล้ว และในเมื่อรัฐธรรมนูญกำหนดเช่นนี้ เราจะไปเถียงรัฐธรรมนูญทำไม เพราะถ้าต้องการให้เป็นเช่นนั้นเราก็ต้องนั่งแก้รัฐธรรนูญกัน ใหม่อีก หรือถ้าประชาชนต้องการให้เป็นอย่างนั้นเราก็ต้องเริ่มต้นทำแต่ตอนนี้ประเด็นดังกล่าวไม่ได้ถูกแตะต้อง เพราะปัจจุบันคนที่จะเป็นนายกฯต้องถูกเสนอชื่อเข้ามา ซึ่งพรรคภูมิใจไทยพูดได้แน่นอนว่าเราทำตามระบบที่เป็นไปตามประเพณีนิยมและเป็นประชาธิปไตย โดยต้องเลือกจากรายชื่อที่เสนอมาเสียก่อน สำหรับคนนอกที่ไม่อยู่ในบัญชีแล้วจะมาใช้มาตรา 272 วรรคสอง ก็พูดได้เลยอย่างนั้นไม่มีทางเอา ต้องใกล้ประชาธิปไตยให้มากที่สุด

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img