นายกฯยันเหตุพบระเบิดทีเอ็น-21 ในบังเกอร์ทหารไทย เป็นของต่างชาติ วางหลังลงนามปฏิญญาสันติภาพแล้ว ชี้ปฏิญญาไร้ผลหากอีกฝ่ายไม่ทำตาม ขณะปัดโทร “ทรัมป์” ย้ำไทยไม่มีนโยบายเดินหน้า MOU 43–44 พร้อมสวนแรงข่าวน้ำตาจระเข้จากสื่อกัมพูชา เตือน “อย่าให้จระเข้งับหางอย่าหางจุกตูดก็แล้วกัน“”
เวลา 15.00 น.วันที่ 12 พ.ย. ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีรายงานว่า ทหารไทยพบระเบิดทีเอ็น-21 ภายในบังเกอร์ของทหารไทย บริเวณห้วยตามาเรีย จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งคาดว่าทหารกัมพูชาเป็นผู้นำมาวาง ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ แต่จากการลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเองเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ยืนยันได้ว่าทุ่นระเบิดดังกล่าวอยู่ในเขตแดนประเทศไทยแน่นอน และไม่ใช่ของทหารไทย เนื่องจากไทยไม่มีอาวุธประเภทนี้ในครอบครอง
นายอนุทินกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบสภาพทางธรณีวิทยาและเทคโนโลยีต่าง ๆ พบว่าทุ่นระเบิดที่พบ ถูกนำมาวางหลังการลงนาม “ปฏิญญาสันติภาพ” ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลง และสะท้อนว่าปฏิญญาดังกล่าวหมดความหมาย หากคู่สัญญาไม่ยึดถือและปฏิบัติตาม
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเสนอให้นายกรัฐมนตรีโทรศัพท์แจ้งสถานการณ์กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก่อนที่กัมพูชาจะสื่อสารไปถึงนั้น นายอนุทินกล่าวสั้น ๆ ว่า “ไม่โทรแล้วครับ” พร้อมระบุว่าได้อธิบายเรื่องนี้กับสื่อหลายครั้งแล้ว “จะกดเพลย์เมื่อไหร่ก็ได้ฟังคำตอบเดิม”
เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ในการยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย–กัมพูชา (MOU 43–44) นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ โดยเฉพาะ MOU 44 ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ทางทะเล และย้ำว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีนโยบายที่จะเดินหน้าต่อในทั้งสองฉบับ
สำหรับกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ออกมาแสดงความเห็นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นความพยายามของกัมพูชาในการเบี่ยงเบนไม่ให้ไทยเร่งปราบเครือข่ายสแกมเมอร์นั้น นายอนุทินกล่าวปฏิเสธ โดยยืนยันว่า “ไม่เกี่ยวกัน” และชี้ว่าตำรวจไทยสามารถจับกุม ดำเนินคดี และยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากแล้ว รวมถึงมีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนและถอนสัญชาติในบางกรณี พร้อมกล่าวว่า “ข้อมูลที่ผมพูดมาจากรายงานของหน่วยงานจริง ไม่ใช่ข่าวลือหรือความกังวลส่วนตัวของใคร”
ส่วนกรณีที่สื่อกัมพูชารายงานว่า นายกรัฐมนตรีไทยร้องไห้ขณะเยี่ยมทหารบาดเจ็บจากการเหยียบทุ่นระเบิด และวิจารณ์ว่าเป็น “น้ำตาจระเข้” นายอนุทินถึงกับหัวเราะ ก่อนจะย้อนถามว่า “ใครพูด” และกล่าวทิ้งท้ายเป็นภาษาอังกฤษว่า “No Comment ไม่ใช่น้ำตาจระเข้ คอยดูจระเข้มันงับที อย่าหางจุกตูดก็แล้วกัน”






































