“นายกฯ” หารือ “ชัชชาติ” บรรยากาศชื่นมื่นเป็นกันเอง พร้อมกับกล่าวต้อนรับ ปรบมือให้ และมอบเหรียญที่ระลึกให้ก่อนร่วมถกศบค.ชุดใหญ่
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เข้าร่วมเป็นครั้งแรก หลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ก่อนการประชุม ศบค. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้นำ นายชัชชาติ พร้อมด้วย นายปรเมศวร์ เข้าพบนายกรัฐมนตรี ที่ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี หลังรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ใช้เวลาหารือ 20 นาที
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้มอบเหรียญที่ระลึกสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ 200 ปี ของกรมธนารักษ์ พิมพ์ด้านหน้าเป็นพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาล 1 และรัชกาลที่ 9 ด้านหลังเป็นตราสัญลักษณ์ราชวงศ์จักรี และสมุดบันทึก ให้กับนายชัชชาติ และนายปรเมศวร์
สำหรับ บรรยากาศในการพูดคุยเป็นไปอย่างเป็นกันเอง ทั้งในส่วนของนายกฯ นายชัชชาติ และ พล.อ.อนุพงษ์ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก่อนที่นายกฯ จะเชิญทุกคนเข้าห้องประชุม ศบค. ยกเว้นนายวิษณุ ที่มีภารกิจข้างนอก โดยทันทีเข้าห้องประชุม ศบค. พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวต้อนรับนายชัชชาติและนายปรเมศวร์ ซึ่งทั้ง 2 คนได้ลุกขึ้นสวัสดีทุกคนในห้อง ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ยังนำปรบมือต้อนรับอย่างเป็นทางการ
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ จะมีการประเมินสถานการณ์รอบ 10 วัน และสถานการณ์ภาพรวมที่ผ่านมา โดยจัดทำข้อเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณามาเป็นลำดับ ควบคู่กับนโยบายด้านการป้องกันการแพร่ระบาดที่กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการ โดยที่ประชุมจะมีการพิจารณาปรับให้มีการผ่อนคลายให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตและประกอบอาชีพได้ใกล้เคียงภาวะปกติให้มากที่สุดอย่างปลอดภัย ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และมีแผนด้านสาธารณสุขรองรับในทุกพื้นที่ เช่น การปรับพื้นที่สถานการณ์ให้เป็นพื้นที่ตามมาตรการสีเขียว (มาตรการเฝ้าระวัง) ให้มากที่สุด
ขณะที่การผ่อนคลายการเปิดกิจการและสถานบริการกลางคืนที่มีความเสี่ยง ให้ดำเนินการได้ใกล้เคียงกับภาวะปกติให้มากที่สุดอย่างปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนที่เป็นห่วงโซ่การประกอบอาชีพด้านนี้ได้มีงานทำและมีรายได้ เรื่องการสวมหน้ากากได้พิจารณาเสนอให้มีการผ่อนคลายให้ไม่ต้องสวมหน้ากากในสถานที่หรือกิจกรรมบางประเภทได้โดยสมัครใจ ภายใต้ข้อแนะนำด้านสาธารณสุขอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับส่วนรวมด้วย
นอกจากนี้ จะเสนอให้มีการปรับมาตรการเข้าออกประเทศที่เกี่ยวข้องกับระบบ Thailand Pass ให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ให้สอดคล้องกับผลการประเมินที่พบว่ามีความเสี่ยงต่ำมาก และเอื้อต่อการจูงใจนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจต่างชาติที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวและทำธุรกิจในประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าขายตามแนวชายแดน ทั้งที่เป็นจุดผ่านแดนถาวร หรือจุดผ่อนปรนทางการค้าตามแนวชายแดน รวมทั้งการท่องเที่ยวผ่านเรือสำราญขนาดเล็กและขนาดใหญ่ด้วย
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข จะเสนอแผนการบริหารจัดการวัคซีนและมาตรการรณรงค์ให้ ปชช.ได้รับวัคซีนได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น เพื่อให้มีความปลอดภัยและไม่เจ็บป่วยรุนแรงเมื่อได้รับเชื้อ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงแต่ละประเภทต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลเป็นห่วงมากที่สุด โดยในการดำเนินการทุกอย่างต้องให้มีความสอดคล้องกับการประเมินสถานการณ์ในปัจจุบันในทุกมิติ รวมทั้งแผนการเปลี่ยนผ่านสู่ระยะ Post-Pandemic หรือ โรคประจำถิ่น ซึ่งต้องมีการหารือในที่ประชุม
ขอบคุณภาพจากเพจ เรารักลุงตู่