“พล.ต.ต.จรูญเกียรติ” ยืนยันตำรวจทำคดีตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐาน ไม่มีรังแกหรือช่วยเหลือใคร การกล่าวหานี้ทำลายความเชื่อมั่นต่อองค์กร และเหมือน “เผาบ้านตัวเอง” พร้อมฝากเตือนให้ผู้เกี่ยวข้องส่งข้อมูลผู้กระทำผิดเข้ากระบวนการกฎหมายแทนการโจมตีองค์กร
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.สอท.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. มองสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็น “องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” ว่า เป็นคำกล่าวหาที่รุนแรงเกินไป และส่งผลเสียต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อองค์กร
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตนและชุดสืบสวนได้ดำเนินการตรวจสอบคดีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหา รวมถึงคดีของอดีต ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เอง โดยยืนยันว่าการทำงานเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา ตามพยานหลักฐาน ไม่มีการรังแกหรือช่วยเหลือใครเป็นพิเศษ การกล่าวหาองค์กรจึงเหมือนเป็นการ “เผาบ้านตัวเอง” ทำลายความเชื่อมั่นต่อสำนักงานตำรวจ
รอง ผบช.ก. ยังระบุด้วยว่า องค์กรตำรวจมีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่เมื่อมีหลักฐานก็พร้อมดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ตลอดปีที่ผ่านมาได้มีการออกจากระบบตำรวจแล้วหลายร้อยคน และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเป็นพันราย การกล่าวหาว่าองค์กรทั้งหมดเป็นอาชญากร จึงไม่เป็นความจริง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวฝากเตือนถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ว่า หากมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องหาที่กระทำผิด ควรส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายโดยตรง แทนการกล่าวหาองค์กรตำรวจ เพราะการทำเช่นนั้นไม่ช่วยให้ปัญหาคลี่คลาย กลับเป็นการสร้างความเสียหายต่อองค์กรและผู้ปฏิบัติงานที่ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์
“วันนี้ท่านอาจฟาดงวงฟาดงากับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ไม่สามารถหนีข้อเท็จจริงและกระบวนการตรวจสอบตามกฎหมายได้ สิ่งที่ทำอยู่คือการปกป้องระบบและกฎหมาย เพื่อให้คนดีทำงานและคนผิดได้รับการตรวจสอบอย่างเป็นธรรม” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว






































